'หัวหน้า-ลูกน้อง'

'หัวหน้า-ลูกน้อง'
คอลัมน์ 'คุยเฟื่องเรื่องใกล้ตัว' โดย 'วิฑูรย์ สิมะโชคดี'

เราอยากได้ “ลูกน้อง” แบบไหน ลูกน้องทุกคนก็คงอยากได้ “หัวหน้า” แบบนั้นเช่นกัน

คำว่า “แบบไหน” - “แบบนั้น” ก็คงจะหมายถึง “คนที่ทำงาน เก่ง” เป็นหลัก
ถ้าเป็นหัวหน้า นอกจากลูกน้อง (ควรจะ) เก่งแล้ว ก็คงต้องการลูกน้องที่มีความรับผิดชอบในงานที่ทำและทำงานได้เสร็จตามภารกิจหรือเป้าหมาย

ถ้าเป็นลูกน้อง นอกจากหัวหน้า (ควรจะ) เก่งแล้ว ก็คงอยากได้หัวหน้าที่ทำงานด้วยความรู้จริง และสามารถแนะนำสอนงานได้อย่างถูกต้องด้วย

ทุกวันนี้ ถ้า “หัวหน้า-ลูกน้อง” ต่างมีคุณสมบัติพร้อมอย่างที่คนทำงานเก่งๆ เขามีกันแล้ว  หัวหน้าก็จะเป็นตัวอย่างที่สามารถสร้าง “แรงบันดาลใจ” ให้เพื่อนร่วมงานและลูกน้องก้าวเดินตามแบบอย่างได้ และร่วมแรงร่วมใจกันทำงานให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย

ว่าไปแล้ว หากเรามีหัวหน้าที่มี “ความเป็นผู้นำ” ที่เด่นชัดเพียงคนเดียว ก็สามารถเป็นเหตุจูงใจให้ทีมงานทั้งทีมสร้างผลงานตามเป้าหมายขององค์กรอย่างเห็นได้ชัด และอาจทำได้ในระดับที่สูงกว่าเดิมด้วย
 

ความพร้อมที่จะบุกและลุยงานแบบ “ไม่เสร็จไม่เลิกรา” มักจะเป็นคุณสมบัติสำคัญของทุกผู้คนที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะ “ลูกน้อง” เพราะการลุยงานมักจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้หัวหน้าเห็นและได้ทราบว่า เราก็สามารถเป็นผู้นำต่อไปได้

เมื่อเราเป็นลูกน้องที่ชอบลงมือทำและสร้างผลงาน (มากกว่าคอยรอรับคำสั่งหรือนั่งรอดูว่ามันจะเกิดอะไรต่อไปแล้วค่อยลงมือทำต่อ) เราก็คือ “ลูกน้องในฝัน” ของหัวหน้าแล้ว
ดังนั้น การทำงานให้มากกว่าผลตอบแทนที่ได้รับ และการเป็น “คนลุยงาน” มักจะให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

ณ วันนี้ การทำงานในหน้าที่เพียงอย่างเดียวไม่พออีกต่อไปแล้ว (เพราะใครๆ ก็ทำได้)  เรายังจะต้องมีความสามารถพิเศษอื่นๆ อีก เพื่อสร้าง “มูลค่าเพิ่ม” ให้กับตัวเราเอง  อาทิ เรื่องของภาษาต่างประเทศ เพราะในใบสมัครงานหรือการสัมภาษณ์เข้างาน มักจะมีคำถามว่า เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น พูด อ่าน เขียนได้มากน้อยเพียงใด

ในโลกที่นับวันจะแคบลงๆ ทุกที การใช้คอมพิวเตอร์เป็นการรู้เรื่อง Digital และ AI พร้อมทั้งความสามารถในการติดต่อธุรกิจด้วยภาษาต่างประเทศ จึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราควรจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอด้วย

ปัจจุบัน เรื่องที่สำคัญก็คือการพัฒนาตนเองให้เป็น “คนรักการเรียรรู้” และสามารถปรับเปลี่ยนทันการเปลี่ยนแปลงเสมอ  การ Reskill, Upskill หรือ Newskill ให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ จึงเป็นเรื่องที่ทุกองค์กรต้องจัดให้มีขึ้น เพื่อการพัฒนาบุคลากรให้ “ก้าวมั่น-ทันโลก”

ดังนั้น ไม่ว่า “หัวหน้า” หรือ “ลูกน้อง” ก็ควรจะพัฒนาตนเองให้มีความสามารถในการทำงานร่วมกันและเรียนรู้ด้วยกันเสมอ เพื่อจะได้รองรับ “โอกาส” ใหม่ๆ ที่นำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
 

แต่ที่น่าเสียดาย ก็คือหลายๆ องค์กรในวันนี้ยังคงมี “หัวหน้า-ลูกน้อง” ที่ยังลองของกันแบบ “ใครดี-ใครอยู่” จนองค์กรเสียหาย  ไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร ครับผม !

 

TAGS: #คุยเฟื่องเรื่องใกล้ตัว #วิฑูรย์ #สิมะโชคดี