เจ้าสัววานิช ไชยวรรณ นักธุรกิจไทย, ประธานกิตติคุณและอดีตประธานกรรมการบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หนึ่งในบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดระดับท็อปทรีของประเทศที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัทธนาคารไทยเครดิต
เจ้าสัว วานิช ไชยวรรณ เกิด 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2475 มี บุตร-ธิดา 8 คน โดย นายไชย ไชยวรรณ บุตรชาย เป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยประกันชีวิต นายวิญญู ไชยวรรณ บุตรชายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยเครดิต นางวรางค์ ไชยวรรณ บุตรีเป็นกรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นายวีรเวท ไชยวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและธนบดี ธนาคารไทยเครดิต
นาย วานิช ไชยวรรณเป็นผู้ถือหุ้นประมาณ 60% ของ บมจ.ไทยประกันชีวิต
จากข้อมูลของ “Forbes Thailand“ เผยว่า เมื่อปี 2513 วานิช ไชยวรรณ ได้เข้ามาดูแลบริษัทไทยประกันชีวิต ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและการบริหาร รวมทั้งออกแบบกรมธรรม์ให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยมากขึ้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์ และได้ขับเคลื่อนพัฒนาองค์กรเรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม ประกันชีวิต คือ หนึ่งในธุรกิจที่สื่อสารกับผู้คนได้ยากที่สุดโดยเฉพาะในสังคมไทย ที่มีความเชื่อว่ามาขายประกันให้เขาเท่ากับแช่งให้เจ็บให้เสียหรือเปล่า หรือแม้แต่แนวคิดที่ว่าจ่ายไปไม่ป่วยไม่ไข้ อย่างไรก็ไม่คุ้ม นั่นทำให้เมื่อก่อนหลายคนเลือกจะเบือนหน้าหนี โดยเฉพาะเป็นของไทย ซึ่งถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือ
แต่ถึงอย่างนั้น ไทยประกันชีวิตก็ใช้ความกังวลนี้ให้เป็นจุดแข็ง ด้วยการที่เป็นบริษัทประกันของไทยนี่แหละ ทำให้ดูแลชีวิตคนไทยได้ดีที่สุด และพยายามสร้างการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกัน โดยเน้นการจำหน่ายผ่านตัวแทนเป็นหลัก พร้อมทั้งเริ่มนำเครื่องมือต่าง ๆ รวมถึงระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้เป็นเจ้าแรก ๆ ของบริษัทประกันภัย
ด้วยความมุ่งมั่นทำให้ไทยประกันชีวิตเติบโตได้ดีและแข็งแรงมาก รวมทั้งในยุคหลัง ๆ มาก็เริ่มมีการทำการตลาดด้วย “ภาพยนตร์โฆษณา” ที่ซึ้งจับใจผู้ชม เป็นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและชัดเจนว่าไทยประกันชีวิตห่วงใยชีวิตคนไทยมากแค่ไหน และกลายเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งของไทย
ต่อมาเจ้าสัววานิชได้ส่งไม้ต่อให้ลูกชาย “ไชย ไชยวรรณ” เข้ามารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
จนในเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้นำไทยประกันชีวิตเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ไทยไปเป็นที่เรียบร้อย โดยมีราคาเสนอขายสุงที่สุดในปี 2565 ที่ 16 บาทต่อหุ้น และสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทยประเภทธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กรในการเติบโตอย่างยั่งยืน
และที่น่าสนใจคือมี Meiji Yasuda Life Insurance Company หนึ่งในบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เข้ามาถือหุ้น 15% ทำให้เครือข่ายสประกันของไทยประกันชีวิตมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นด้วย
ทุกวันนี้ไทยประกันชีวิตประสบความสำเร็จมาก เป็นบริษัทประกันที่กินส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสาม ที่ 14% แต่ก็ยังนับว่าเป็นเบอร์หนึ่งของประกันไทย ทั้งยังมีมูลค่าบริษัทสูงกว่า 5 แสนล้านบาท รายได้ต่อปีนับแสนล้าน มีตัวแทนกว่า 44,300 ราย ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ คิดเป็น 27% ของตัวแทนประกันทั้งหมดในไทย ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด และมีศูนย์บริการ 263 แห่ง
นอกจากความสามารถในการสร้างธุรกิจประกันให้เติบโตอย่างยิ่งใหญ่แล้ว เจ้าสัววานิชยังร่วมก่อตั้ง “บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่” ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย “Heineken” ในประเทศไทย พร้อมทั้งถือหุ้นในบริษัทเบียร์เจ้ายักษ์อย่าง “ไทย เบฟเวอเรจ” และยังมีธุรกิจธนาคารอย่าง “ธนาคารไทยเครดิต” ที่ให้ลูกชาย “วิญญู ไชยวรรณ” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
โดยรวมแล้ว เจ้าสัววานิช ไชยวรรณ เป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจที่มีทั้งความมุ่งมั่นและความสามารถ สร้างไทยประกันชีวิตให้เป็นอันดับหนึ่งประกันชีวิตไทยได้ และยังลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งก็ได้ส่งไม้ต่อให้กับลูก ๆ ที่มีความสามารถไม่แพ้กันได้ดูแลต่อ แต่แม้ว่าเขาได้ปล่อยวางตำแหน่งผู้นำ ความมั่งคั่งของเขาก็ยังมีมากถึง 136,000 ล้านบาท และถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับ 6 ในไทย โดยนิตยสาร Forbes Thailand ในปี 2566