รองนายกฯ "อนุทิน"   พร้อมคณะมหาดไทยและ ส.ส.ภูมิใจไทย ลงพื้นที่พิบูลมังสาหาร ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำมูล ยืนยันโครงการกว่า 7,500 ล้านบาทตอบสนองประชาชน ไม่เกี่ยวการเมือง ลั่น "สิงห์ยังกลัวประชาชน" 

เวลา 15.15 น.  ที่โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย สส.อุบลราชธานี ทั้ง 3 เขต ของพรรค คือ นายสุทธิชัย จรูญเนตร น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช ร่วมลงพื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ติดตามความพร้อมของหน่วยงานราชการ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนหากเกิดกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล 

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ความมั่นใจว่าพวกเราจะดูแลความปลอดภัย ดูแลคุณภาพชีวิต และดูแลขวัญกำลังใจ ของทุกท่านอย่างสุดความสามารถ วันนี้ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่มีรมช.มหาดไทย มีทีมที่ปรึกษา มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดอีสานใต้ 3-4 จังหวัด รวมถึง สส.หลายท่านอยู่ตรงนี้ด้วย วันนี้ตนไม่รู้อะไรจะพูดกับพี่น้องประชาชน เพราะท่านมากันมาก แต่วันนี้ก็วอร์มเครื่องก่อน มท.1 ก็มท.1 เถอะ เจอประชาชนเยอะแบบนี้ก็ขาสั่น สิงห์จะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ต้องกลัวประชาชน เพราะหน้าที่ของ มท.1 หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยทุกคน คือบำบัดทุกข์บำรุงสุข เขาบอกราชสีห์เป็นเจ้าป่าก็ใช่ แต่ก็เป็นขี้ข้าประชาชน วันนี้เรามาบอก ว่าเอาโครงการต่างๆมาลงในช่วง 3 ปีนี้ เฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดเดียว กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเดียวยังไม่รวมกรมอื่นๆ ลงไปแล้ว 7,500 ล้านบาทโดยประมาณ ทั้งหมดเป็นโครงการที่รับฟังความเห็น และปัญหาต่างๆมาจากประชาชน
   
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาพิบูลมังสาหาร เพื่อมาดูเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ทำให้ชุมชนใหญ่ปลอดภัยจากปริมาณน้ำ กระทรวงมหาดไทยจัดให้ได้หมด แต่สิ่งที่ต้องขอความร่วมมือจากพ่อแม่พี่น้อง ต้องบอกกันไปสามบ้านแปดบ้าน ฝากพ่อแม่พี่น้องไปบอกลูกบ้านของเราว่าต้องอย่าให้มีสิ่งปฏิกูล หรืออะไรก็ตามมาขวางทางน้ำ 
    
“อุบลราชธานีมีสส.ของพรรค 3 คน แต่หากเป็นไปได้ก็ขอเพิ่ม เพราะคนวัยนี้คือคนวัยทำงาน ยังมีความสมบูรณ์ มีความพร้อมสุขภาพดี เขาทำงานให้กับพวกท่านได้ สส.พรรคภูมิใจไทยของผมได้รับการปลูกฝังว่าไม่ใช่แค่สส.บุรีรัมย์ แต่คือสส.ประเทศไทย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนคนเหล่านี้คือผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ราษฎรพิบูลมังสาหาร หรือราษฎรวารินชำราบ แต่เป็นราษฎรของประเทศไทย ดังนั้น ไปตรงไหนหน้าที่ของผู้แทนราษฎรติดตัวไปด้วย หน้าที่รัฐมนตรีติดตัวไปด้วย ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ นี่คือคำยืนยันจากผมในฐานะที่เป็นหัวหน้าของพวกเขา ซึ่งก็คือหัวหน้าคนใช้ เป็นคนรับใช้พี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นเกียรติเหลือเกินที่ได้เป็นตำแหน่งนี้” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทินเดินทักทายประชาชน ที่มี ประชาชนมาห้อมล้อมขอถ่ายรูปและขอสวมกอด ทำให้ผู้สื่อข่าวกล่าวแซวว่า บรรยากาศเหมือนเลือกตั้ง นายอนุทิน ทั้งยิ้มและหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า เหมือนเลือกตั้ง ก่อนหันไปถามชาวบ้านที่มาสวมกอกว่า ได้เลือก น.ส.แนน บุณญ์ธิดา หรือเปล่า ก่อนจะนำมือไปลูบที่ศีรษะของ สส.แนน  ชาวบ้านจึงตอบกลับมาว่า เลือกแนน เพราะแนนเป็นลูกหลาน รักจริง ทำจริง

จากนั้น นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า กระทรวงมหาดไทยจะสัญจรไปยังจังหวัด และกลุ่มจังหวัดที่มีความเสี่ยงจะเกิดสถานการณ์น้ำท่วม เราคาดการณ์ไว้ว่าปีนี้น้ำฝนจะไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน ซึ่งเราถอดบทเรียนความเสียหายจากปีที่ผ่านมาว่าเกิดขึ้นจากอะไร เหตุผลส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากปริมาณน้ำ แต่เกิดจากการบล็อคของเส้นทางน้ำ ฉะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่อยู่ในเขตน้ำท่วมจะบริหารจัดการเคลียร์เส้นทางน้ำให้มากที่สุด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง แต่รวมถึงท่อระบายน้ำ ซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนอย่างดี บางท่านมีเรือกสวน ไร่ นา ในบางช่วงที่เขาไม่ได้ทำการเกษตรก็ยอมทำเป็นที่พักน้ำ รัฐบาลจึงกำลังหาทางช่วยเหลือเยียวยาท่านที่ได้เสียสละในส่วนนี้ 
     
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขนสส.ของพรรคลงพื้นที่ด้วยแบบนี้เป็นการวอร์มรอเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าไปที่ไหนสส. ที่อยู่ในพื้นที่จะมารับฟัง มาชี้แจงปัญหาของชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นสส.ของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ตอนที่ไปชายแดนที่อุบลราชธานีก็เจอสส.ของพรรคเพื่อไทยกับพรรคไทรวมพลัง ที่เป็นเจ้าของพื้นที่มาชี้แจงปัญหา เราไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะเราถือว่าพวกเราเป็นสส.ของพี่น้องประชาชนทุกคน
   
เมื่อถามย้ำว่า การให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับบรรยากาศการลงพื้นที่เหมือนจังหวะหาเสียงพอดี นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐมนตรีอย่างเดียว ตนมีฐานะเป็นสส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์หนึ่งของพรรคภูมิใจไทย พวกตนมาจากคะแนนทุกคะแนนทั่วประเทศ เป็นสส.มีสิทธิ์ลงไปแก้ไขสถานการณ์ดูแลพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะพวกตนมาได้เพราะพวกเขา