กองทัพบก อัปเดตมาตรการจำกัดการผ่านแดนไทย-กัมพูชา ยกระดับขั้นตอนตามพื้นที่ ยังไม่ปิดตายจุดใด พื้นที่เสี่ยง เปิดแค่ 3 ชั่วโมง ย้ำพร้อมตัดไฟด่านช่องจอม หากอีกฝ่ายเพิ่มกำลังทหาร
ทบ.อัปเดตมาตรการเปิด-ปิดด่าน ไทย-กัมพูชา เช็ครายละเอียดได้ที่นี่
กองทัพบก อัปเดตมาตรการจำกัดการผ่านแดนไทย-กัมพูชา ยกระดับขั้นตอนตามพื้นที่ ยังไม่ปิดตายจุดใด พื้นที่เสี่ยง เปิดแค่ 3 ชั่วโมง ย้ำพร้อมตัดไฟด่านช่องจอม หากอีกฝ่ายเพิ่มกำลังทหาร
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผย ตามที่กองทัพบกกำหนดมาตรการควบคุมการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนนั้น ปัจจุบันกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก เริ่มมีการใช้มาตรการดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เวลา 19.00 น. ดังนี้
-พื้นที่รับผิดชอบกองกำลังบูรพา
1. จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
กำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็น 08.00 – 16.00 น. โดยอนุญาตเฉพาะการค้าขาย หรือการเดินทางเพื่อทำงาน ห้ามชาวไทยเดินทางออกนอกประเทศเพื่อเล่นการพนันหรือท่องเที่ยว และเอกสาร Border Pass / Passport ใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน รวมทั้งห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปผ่าน
2. จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา หนองเอี่ยน–สตึงบท
กำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็น 08.00 – 16.00 น. โดยกำหนดให้ใช้เป็นจุดผ่านแดนหลักสำหรับรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป
3. จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว
กำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็น 08.00 – 16.00 น. โดยอนุญาตเฉพาะการค้าขายหรือการทำงาน ห้ามนักพนันและนักท่องเที่ยวเดินทางผ่าน และเอกสาร Border Pass / Passport ใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน รวมทั้งห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปผ่าน
4. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
กำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็น 08.00 – 12.00 น. โดยทหารจะใช้ดุลยพินิจในการคัดกรองบุคคลเข้า–ออกเป็นรายกรณี และห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปผ่าน
5.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
กำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็น 08.00 – 12.00 น. โดยทหารจะใช้ดุลยพินิจในการคัดกรองบุคคลเข้า–ออกเป็นรายกรณี และห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปผ่าน
พื้นที่รับผิดชอบกองกำลังสุรนารี
1. จุดผ่อนปรนการค้าช่องอานม้า ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีกำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็นเฉพาะวันพฤหัสบดี 09.00 – 12.00 น. โดยให้บุคคลผ่านเข้า–ออกไม่เกินเขตตลาดของทั้งสองประเทศผ่านการแลกบัตร ซึ่งอนุญาตเฉพาะการนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และไม่อนุญาตให้ยานพาหนะผ่าน ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล ทั้งนี้พร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อฝ่ายกัมพูชาเพิ่มกำลังจนกระทบต่อความปลอดภัย
2. จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์กำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็นวันอังคาร, พุธ และพฤหัสบดี 09.00 – 12.00 น. โดยให้บุคคลผ่านเข้า–ออกไม่เกินเขตตลาดของทั้งสองประเทศ ผ่านการแลกบัตร ซึ่งอนุญาตเฉพาะการนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และไม่อนุญาตให้ยานพาหนะผ่าน ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล ทั้งนี้พร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อฝ่ายกัมพูชาเพิ่มกำลังหรือมีเหตุปะทะบริเวณชายแดน จนกระทบต่อความปลอดภัย
3. จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษกำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็นวันจันทร์, พุธ และศุกร์ 08.00 – 15.00 น. โดยใช้ Passport / Border Pass ซึ่งยานพาหนะสามารถผ่านได้ตามระเบียบ จำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย และงดส่งออกวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล ทั้งนี้ พร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อมีเหตุปะทะบริเวณชายแดน
4. จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ กำหนดเวลาเปิด–ปิดใหม่ เป็นวันจันทร์, พุธ และศุกร์ 08.00 – 15.00 น. โดยใช้ Passport / Border Pass ซึ่งยานพาหนะสามารถผ่านได้ตามระเบียบ จำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย และงดส่งออกวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล ทั้งนี้ จะดำเนินการงดจำหน่ายกระแสไฟฟ้า เมื่อฝ่ายกัมพูชาเพิ่มกำลังทหารในลักษณะที่ส่งผลต่อความปลอดภัย และพร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อมีเหตุปะทะบริเวณชายแดน
นอกจากนี้พื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ของกองทัพเรือ ได้กำหนดให้จุดผ่านแดนถาวร และ จุดผ่อนปรนการค้าทุกแห่ง ตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด เปิด–ปิดเวลา 08.00 – 16.00 น.
สำหรับการใช้มาตรการตามแนวชายแดนดังกล่าวนั้น ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นที่ 1 และขั้น 2 ยังไม่ได้ปิดจุดผ่านแดนใดๆ เว้นช่องทางธรรมชาติที่ได้ปิดไปแล้ว ทั้งนี้เป็นไปตามสภาพแวดล้อม ความรุนแรงและภัยคุกคามในแต่ละพื้นที่ ที่ปัจจุบันพบว่าทางฝ่ายกัมพูชายังคงเพิ่มกำลังทหารในบริเวณแนวชายแดน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งไทยและกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน