“วิโรจน์” เชียร์ปิดด่านชายแดน กดดันจนกว่ากัมพูชาจะเคารพ MOU43 แนะรัฐบาลกำหนดมาตรการชดเชยเยียวยาคนไทย เร่งชี้แจงต่างชาติ-ชาวกัมพูชา ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อสองพ่อลูก 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง รัฐบาลต้องเร่งกำหนดมาตรการชดเชยเยียวยาคนไทย และกดดันกัมพูชาต่อเนื่อง พร้อมสื่อสารให้ชาวกัมพูชาเห็นถึงความไม่ชอบธรรมของฮุนเซ็น และฮุนมาเน็ต 

โดยระบุรายละเอียดว่า จากท่าทีของฮุนเซน ที่ระบุว่าประเทศไทยต้องรับผิดชอบต่อมาตรการปิดด่านที่เกิดขึ้น พร้อมมีท่าทีที่พยายามลดทอนกระแสชาตินิยมที่ตนเองปลุกขึ้นให้คลายลง สะท้อนว่า "มาตรการการปิดด่าน" ของเราได้ผล และสร้างผลกระทบต่อกลุ่มทุนที่สนับสนุนตระกูลฮุน ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเราจำเป็นต้องดำเนินมาตรการในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง และจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งกำหนดมาตรการชดเชยเยียวยาประชาชน รวมทั้งสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว เพื่อให้ประเทศไทยสามารถยืนระยะในมาตรการนี้ในระยะยาว หรือตลอดไป จนกว่ากัมพูชาจะเคารพต่อ MOU43 ที่ไทย และกัมพูชาได้ร่วมลงนามกันเอาไว้

ผมคิดว่า สิ่งที่ฮุนเซน และฮุนมาเน็ต จะทำหลังจากนี้ เพื่อตอบสนองต่อมาตรการการปิดด่าน ก็คือ "การเล่นบทเหยื่อ และสร้างภาพว่าประเทศไทยเป็นฝ่ายรังแกกัมพูชา" ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งสื่อสารทางการเมืองทั้งต่อประชาชนคนไทย ต่อชาติอาเซียนและนานาอารยประเทศ รวมทั้งต้องสื่อสารให้กับประชาชนชาวกัมพูชาให้ทราบโดยทั่วกันด้วยว่า เหตุที่ประเทศไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการปิดด่าน หรือมาตรการอื่นใดที่เข้มข้นขึ้นนับจากนี้ ไม่ได้เกิดจากการที่ประเทศไทยยื่นข้อเรียกร้องอะไรใหม่แก่รัฐบาลกัมพูชาเลย แต่เป็นเพราะฮุนเซ็น และฮุนมาเน็ตต่างหาก ที่เป็นฝ่ายไม่รักษาข้อตกลง MOU43 ที่สองประเทศได้ลงนามร่วมกันที่ โดยเป็นการกระทำที่เอาปากท้องของประชาชนชาวกัมพูชามาสังเวย เพื่อให้ตระกูลของตนได้ผลประโยชน์ทางการเมือง จากกระแสชาตินิยมที่ปั้นแต่งขึ้น

สิ่งที่ประเทศไทยต้องการนั้นเรียบง่ายมาก นั่นก็คือ การเคารพต่อ MOU43 ที่ไทย และกัมพูชาได้ร่วมลงนามกันเอาไว้ในฐานะมิตรประเทศ และเป็นข้อตกลงที่ทำให้ประชาชนทั้งไทย และกัมพูชามีความเป็นอยู่ และปากท้องที่ดีเรื่อยมา ซึ่งไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล หรือยากเกินกว่าที่จะรับได้เลย

ผมขออนุญาตเสนอแนะต่อนายกฯ แพทองธาร และรองนายกฯ ภูมิธรรมว่า ในเมื่อเรารู้ว่าฮุนเซน และฮุนมาเนตจงใจสร้างกระแสชาตินิยม เพื่อให้ตระกูลของตนได้สืบทอดอำนาจทางการเมือง โดยไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนร่วมชาติชาวกัมพูชา เราก็จำเป็นต้องสื่อสารอย่างแข็งขัน และต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ชาวกัมพูชาหลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อของฮุนเซน และฮุนมาเนต อีกต่อไป

ฮุนเซน และฮุนมาเนตต้องไม่ได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ ได้เวลาที่เราต้องให้พวกเขาได้รับ ในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่พวกเขาต้องการ แต่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง ไม่ใช่ประโยชน์ของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง