"นายกฯแพทองธาร" นำทีมความมั่นคงประชุมด่วน สมช. วางมาตรการตอบโต้ หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด
ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อถกติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และพิจารณามาตรการตอบโต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมนายกฯ มีกำหนดการเป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า เวลา 10.00 น. แต่ได้เลื่อนการประชุมเป็นเวลา 11.00 น. เพื่อมาเป็นประธานการประชุม สมช.ก่อน
ผบ.ทร. ยัน กองทัพเรือพร้อมทุกมิติ หลังกัมพูชาซ้อมรบใกล้เกาะกูด
ที่ จ.นครศรีธรรมราช พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงการระวังป้องกันสถานการณ์ชายแดนทางทะเลไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ กองทัพเรือกัมพูชาเตรียมซ้อมรบด้วยกระสุน จริงใกล้เกาะกูดของไทย ว่า กองทัพเรือของกัมพูชาว่างเว้นจากการซ้อมรบมานาน พอมาถึงจุดนี้ ถ้าตนเป็น ผบ.ทร.กัมพูชา เมื่อรัฐบาลเขาสั่งให้มีความพร้อม ก็เป็นแอ็คชั่นที่ทางกัมพูชาต้องทำ อย่าไปตื่นเต้นตกใจว่าทำไมถึงมาแอ็คชั่นกันตอนนี้ ซึ่งการซ้อมรบของฝั่งไทยเราไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ โดยมีการฝึกทุกปีและฝึกมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ถ้าทุกคนได้ติดตามการฝึกของกองทัพเรือ ก็จะเห็นภาพว่ามีการฝึกทั้งบนบก และต่อเนื่องที่ จ.นราธิวาส รวมถึงการฝึกยิงในทะเลอันดามัน ซึ่งถ้าเราเห็นว่าจำเป็นต้องมีอาวุธเพิ่มขึ้น และจัดหามาได้ทัน ก็จะเห็นการฝึกอีกฉากหนึ่งคือการใช้โดรนในการฝึก
เมื่อถามอีกว่าดูเหมือนการฝึกของกัมพูชาครั้งนี้ จะใกล้ชายแดนไทยคือเกาะกูด พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ทางกัมพูชาทราบอยู่แล้วว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นของใคร เราก็ดูแลพื้นที่ของเรา เขาก็อยู่ในพื้นที่ของเขา ไม่ต้องตื่นเต้นตกใจอะไร
ส่วนในทางการข่าวได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าการซ้อมรบครั้งนี้มีนัยยะอะไร พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า เรื่องของนัยยะมีความชัดเจนอยู่แล้ว เพราะความตึงเครียดมันเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้ความตั้งใจของรัฐบาลมันถูกถ่ายทอดไปยังกองทัพต่าง ๆ
“กองทัพเรือกัมพูชา เขาว่างเว้นจากเรื่องนี้มานาน เมื่อมีคำสั่งมาเขาก็ต้องแอ็คชั่นเป็นผม ผมก็ต้องทำ ไม่งั้นก็ไม่ต้องเป็นแล้วผู้บัญชาการทหารเรือ ถ้าคุณไม่สามารถเตรียมความพร้อมตามที่รัฐบาลสั่งได้” พล.ร.อ.จิรพล กล่าว
พล.ร.อ.จิรพล กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทัพเรือไทย ช่วงนี้มีการตรวจความพร้อมในพื้นที่ที่เราดูแล เรามีพื้นที่ติดกับกัมพูชาตั้งแต่ จ.จันทบุรี ถึง จ.ตราด ซึ่งมีกองกำลังป้องกันชายแดนดูแลอยู่ ตนได้สั่งการให้ไปดูแลความพร้อมของทุกหน่วย ซึ่ง ผบ.กองกำลังได้ดำเนินการเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องออกข่าวอะไรมากมาย ส่วนกำลังทางเรือในพื้นที่ติดกับกัมพูชา เรามีหมู่เรือป้องกันชายแดน (ปชด.) ฉก.182 นปก.เกาะกูด ซึ่งเราก็เพิ่งฝึกยิงอาวุธจริงไป ไม่จำเป็นต้องโชว์ เราฝึกของเราทุกปี
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์ตึงเครียด และมีคำสั่งจากรัฐบาลให้ผลักดันฝ่ายกัมพูชาออกไปนอกเขตพื้นที่ กองทัพเรือมีความพร้อมในการสนับสนุนกองทัพบกอย่างไร พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า “ขอให้ร้องขอมาได้เลย เรามีแผนแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับป้องกันชายแดน หรือแผนป้องกันประเทศ อยู่ที่สั่งการจากส่วนกลาง หรือจะให้กองทัพเรือพัฒนาแผนขึ้นมาใหม่ก็ได้ ให้เราตีจากพื้นที่ที่เรารับผิดชอบขึ้นไปช่วยที่ช่องบก ฝ่าขึ้นไป ถ้าสั่งมาเราก็พร้อมทำ”
ส่วนการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของกัมพูชา จะทำให้กระแสเรื่องของเกาะกูดกลับขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่ พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า มันไม่น่าเกิดเหตุเรื่องนี้ เพราะกำลังของกัมพูชาจะอยู่ด้านบนเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ที่อยู่ตรงข้ามกับที่กองทัพเรือดูแลอยู่ เราก็เฝ้าระวังหาข่าวอยู่ตลอด ถ้าเขาขยับเราก็พร้อมขยับ
ส่วนที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โพสต์ภาพกับศาลาตรีมุข ทำให้มีคนไทยออกมายืนยันว่าศาลานี้สร้างโดยประเทศไทย ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งมองอย่างไร พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า มันเป็นการสร้างภาพ สร้างสถานการณ์ ตนไม่อยากก้าวล่วงเรื่องข้อมูล เพราะมันเกินอำนาจหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบดูแลอยู่ แต่ในฐานะที่รับผิดชอบกองทัพเรือ ขอบอกให้ทุกคนได้ทราบว่ากองทัพเรือมีความพร้อมที่จะสนับสนุนกองทัพบก และกองทัพอากาศ ตามที่รัฐบาลสั่ง จะอะไรก็ตามเรามีความพร้อม
ส่วนการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพเฉพาะกิจช่วงบ่ายวันนี้ จะมีวาระเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเตรียมความพร้อมของกองทัพให้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า มีแน่นอน เพราะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า เราจึงต้องมาพูดคุยกัน ใครต้องการให้สนับสนุนอะไร ข้ามเหล่าทัพกันแบบไหน และแชร์ความเข้าใจให้ตรงกันทางด้านข่าวสาร เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
เมื่อถามว่าถือเป็นการเตรียมความพร้อมของกองทัพครั้งแรกหรือไม่ พล.ร.อ.จิรพล กล่าวย้ำว่า ไม่ใช่ เรามีการเตรียมความพร้อมในรูปแบบนี้อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่สถานการณ์ในปัจจุบันมันถูกพัฒนามาถึงขั้นนี้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเนื้อหาการประชุมให้สอดคล้องกับสถานการณ์
เมื่อถามอักว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่ต้องผลักดันทหารกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในระยะ 200 เมตร พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า “แผ่นดินที่เป็นของไทย มันก็ไม่ควรจะให้มีใครเข้ามาใช้ประโยชน์ เมื่อเขาเข้ามาเราก็ต้องผลักดันออกไป“