" นายก " ลั่น สนิท " ฮุนเซน " แต่ไม่ยกประเทศให้ ยกเพลงชาติ “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” พร้อมสู้ หากเกิดเหตุปะทะ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจ.อุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้เรามีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ประเทศไทย และคนไทยทุกคนต้องรักกัน และสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ต้องแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานดีหรือไม่ ทหารทำงานยังไง แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน และทุก ๆ สื่อ ก็ขอความช่วยเหลือ เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะต่อคนหมู่มาก หรือหมู่น้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกันถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจา ต่อสู้ มันต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ต้องใช้ความสามัคคี ต้องใช้ความรักของคนในชาติเพื่อจะสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชน ก็คือประเทศไทย ซึ่งเราทุกคนก็ขอให้ความร่วมมือทางด้านนี้ว่าการคอมเม้นต์ หรือปล่อยเฟคนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร รัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ และรักษาอธิปไตยของเราไว้ คือสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องทำอย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาล และทหารคุยกันตลอดว่าจะไปทางไหนอย่างไร ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เราเตรียมพร้อมเพื่อรักษาความปลอดภัยของคนไทยทุกคนอย่างแน่นอน เผื่อหากมีการกระทำ เราก็ต้องพร้อมรับมือ ไม่ใช่ประเทศสันติวิธีแล้วถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา แล้วไม่พร้อม ไม่ได้ เราต้องพร้อมรับมือทุกรูปแบบ แต่แน่นอนว่าเราเลือกสันติวิธี เราไม่อยากให้มีการประทะ เสียเลือดเนื้อ ไม่ว่าคนในประเทศไหนก็ตาม ไม่อยากให้มีอย่างนั้น แต่อุปกรณ์พร้อม เครื่องมือพร้อม ซึ่งพูดคุยได้ในทุกระดับในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ในระดับผู้นำ ไม่เถียงเลยว่าเป็นมิตรกัน ซึ่งตนเองคิดว่า ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่เราจะมีเพื่อน ทุกคนมีเพื่อนได้ ถ้าวันหนึ่งเพื่อนทะเลาะกัน หรือไม่เข้าใจกัน เราปรับความเข้าใจกัน มันคงจะเป็นเรื่องง่าย ถ้าเป็นด้านการค้า เราคุยกันตลอด สิ่งที่ทำกันตลอด ไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้น มาเลเซียก็ทำ ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วย
" วันนี้ทะเลาะกัน ฉันขอบ้านเธอได้ไหม มันไม่มีเพื่อนคนไหนที่จะให้ ความสัมพันธ์อันดีมีจริง วันที่เกิดเรื่อง ก็คุยกับนายกฯ กัมพูชา ว่าจะไม่มีความรุนแรง และก็ถอยจริง ๆ แต่เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้น หน้างานก็จัดการกันในฐานะของหน้างาน” นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย