กองทัพอากาศเตรียมเปิดรายละเอียดโครงการจัดหา GRIPEN E/F จากสวีเดน เสริมศักยภาพปกป้องอธิปไตย ขณะเดียวกัน "หลวงปู่ศิลา" มอบเงินและข้าวสารช่วยเหลือทหารชายแดน
กองทัพอากาศแจ้งข่าวผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก RTAF News และกองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force ถึงการแถลงโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบ GRIPEN E/F รุ่นใหม่ล่าสุดจากสวีเดน โดยระบุข้อความว่า A NEW ERA OF AIR POWER ยุคใหม่แห่งอำนาจเวหา เหนือเส้นขอบฟ้าปกป้องอธิปไตย โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบ GRIPEN E/F เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญซึ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ ตามวิสัยทัศน์การพัฒนาสู่ กองทัพอากาศที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ หรือ UNBEATABLE AIR FORCE นำมาซึ่งยุทโธปกรณ์ที่มีสมรรถนะสูง เพื่อใช้ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติ สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามตามสภาวะแวดล้อมในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"THAILAND TAKES FLIGHT INTO A NEW ERA ทั้งวันนี้และวันข้างหน้าเราจะดูแลอธิปไตยเหนือน่านฟ้าไทยด้วยชีวิต"
พร้อมกันนี้ยังได้เผยแพร่คลิปความยาว 1.52 นาที โดยมีภาพเครื่องบินขับไล่แบบ GRIPEN E/F ที่อ้างอิงจาก SAAB เผยถึงคุณสมบัติศักยภาพของ GRIPEN E/F อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามรายละเอียดการแถลงของกองทัพอากาศในวันพรุ่งนี้ (4 มิถุนายน 2568) ในเวลา 14.00 น. ซึ่งสามารถรับชมได้ที่ www.rtaf.live และ Facebook : กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force
ขณะที่พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ คณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท (สองล้านหนึ่งหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยหกสิบบาทถ้วน) และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดยมี พล.ท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 เป็นผู้รับมอบ
สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่น ของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน
นทท. แห่ให้กำลังใจ ทหารฐานปฎิบัติการปราสาทตาเมือนธม
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-3 มิ.ย. มีนักท่องเที่ยวชาวไทย ทยอยเดินทางขึ้นมาท่องเที่ยวบนปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กันอย่างคึกคัก ซึ่งการเดินทางมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม ในครั้งนี้ ต่างไปจากครั้งก่อนๆ ที่ขึ้นมาแล้วเดินชมปราสาทก่อนเข้าไปขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในปราสาท
โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับนำสิ่งของ เครื่องใช้ ข้าวสารอาหาร แห้ง มาม่า ปลากระป๋อง และน้ำดื่มมามอบให้กับทหารกองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม พร้อมถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก เพื่อเป็นกำลังใจ กับทหารผู้ที่ปฏิบัติหน้าทีตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ประสาทตาปธมเป็นหนึ่งในสามปราสาท ที่อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอมติจากรัฐสภากัมพูชายื่นต่อศาลโลกเพื่อให้ตัดสินว่าทั้งสามปราสาทนี้เป็นของประเทศไทยหรือของกัมพูชา
แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมเสริมกำลัง ทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา
เวลา 15.00 น. ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้ง หน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และ กองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต. อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ
พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้มีการจัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบ กองทัพภาคที่ 1
โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ทำการตรวจสภาพความพร้อมรบ ตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก
ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลัง ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฎิบัตืหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน
