“ครูจวง”ซัดรัฐบาลจัดงบ ให้ กยศ.แบบนี้ถังแตกแน่นอน ชี้ รู้อยู่เต็มอก กยศ.รายได้ลด ปล่อยให้นักเรียน-นักศึกษาที่รอความหวังยืนอยู่บนปากเหวอย่างเดียวดาย
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า การจัดงบประมาณปี69 ของรัฐบาลแบบนี้ตนไม่เห็นด้วยโดยงบกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพราะถ้ารัฐบาลจัดงบประมาณแบบนี้กยศ. ถังแตกแน่นอน เพราะเมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ กยศ จะหักเงิน 3 พันบาทกับผู้กู้ที่เคยค้างชำระหนี้ จนเกิดเสียงซุบซิบนินทาว่ารัฐบาลและกยศ.ถังแตก จนต้องมารีดเลือกกับปู ตนก็สงสัยว่ากยศ. กำลังจะถังแตกจริงหรือไม่ และเมื่อไปดูการจัดงบ69 แล้วบอกได้คำเดียวว่ารัฐบาลจัดงบแบบนี้ กยศ.จะยิ่งถังแตกหนักมากขึ้นไปอีก และยิ่งพิสูจน์ว่ารัฐบาลกำลังปล่อยให้นักเรียน นักศึกษาไทย ที่รอความหวังเงินกู้ กยศ.ยืนอยู่บนปากเหวเดียวดาย และเมื่อย้อนไปดูการจัดงบ กยศ.ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา กยศ.ที่ต้นเหตุแท้จริง
นายปารมี กล่าวต่อว่า กยศ.ของบ69 จำนวน 21,900 ล้านบาท แต่รัฐบาลจัดสรรให้แค่ 5,100 ล้านบาท จะพอได้อย่างไรกับนักเรียนนักศึกษาจำนวน 6.3 แสนกว่าคน ที่กำลังรอความหวังจากเงน กยศ. การที่รัฐบาลจัดงบ 69 ให้กยศ.แบบนี้สิ้นปี 69 กยศ.จะขาดสภาพคล่องรุนแรงแน่นอนแซงจะถังแตกแบบสุดๆ ซึ่งตนไม่ได้พูดลอยๆ แต่มีข้อมูลจากประมาณการเงินสดปี 67-72 ของกยศ.มีเงินสดน้อยลง โดยงบ67 มีเงินสดแค่ 12,774 ล้านบาท ปี68 มีเงินสดติดลบถึง 1,698 ล้านบาท ปี 69 รัฐบาลจัดงบซ้ำเติมกยศ.และดับความหวังนักเรียนนักศึกษา เพราะจัดให้แค่ 5,100 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ กยศ.มีเงินสดติดลบสูงถึง 16,708 ล้านบาท ต้นซึ่งตนเคยพูดไว้ตั้งแต่อภิปรายไม่ไว้วางใจว่ากยศ. กำลังจากถังแตกแต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ออกมาปฏิเสธว่าไม่จริง กยศ.สภาพคล่องยังดีอยู่ แต่สุดท้ายก็ไปขอ แต่ญัตติได้งบมาเกือบ 4 พันล้านบาทต่อมาตอนอภิปรายงบ 68 วาระ2 ตนก็ถามนายจุลพันธ์อีก นายจุลพันธ์ก็พูดให้ตนเชื่อมั่นรัฐบาลในการ กลับดูแลกยศ. พูดเสร็จท่านก็ไปของบกลางอีก2,800 กว่าล้านบาท
นายปารมี กล่าวต่อว่า ปี 68 จะเป็นปีแรกที่กยศ. เปลี่ยนหลักเกณฑ์การกู้เงินของนักศึกษาใหม่ในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพเช่นหมอ ทันตแพทย์ เภสัช พยาบาลจากเดิมที่สาขานี้เคยกู้ตามหลักเกณฑ์ผู้กู้ลักษณะที่สองคือสาขาหลักที่เป็นความต้องการของประเทศแต่กยศ. เปลี่ยนพวกเขาไปเป็นผู้กู้ลักษณะที่หนึ่งคือนักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคนทุนทรัพย์ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบอย่างตามมาคือนักศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพเหล่านี้จะต้องมีบางคนไม่สามารถกู้เงินจากกยศ. ในปีนี้ได้แน่นอนเพราะต่อไปนี้นักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพที่เป็นนักศึกษาใหม่ที่จะมากู้ตามหลักเกณฑ์ใหม่นี้เขาจะต้องยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์เท่านั้น ซึ่งตนสงสัยว่าสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพนี้ไม่ใช่สาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักของประเทศตรงไหน จะทำให้ผู้กู้ตกหล่นไม่ได้เงินกยศ.แน่นอน การที่รัฐบาลจัดงบให้กยศ.ที่มีผู้กู้ 6 แสนกว่าคนในปีนี้ แสดงว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการช่วยเหลือผู้ที่รอเงินกู้กยศ.เลย ตรงกันข้ามกับ ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)แถลงไว้ว่าเด็กทุกคนจะเติบโตอย่างเท่าเทียมและได้เข้าเรียนหนังสือเท่าเทียมกัน แต่จัดงบแบบนี้พวกเขาจะได้เรียนเท่าเทียมอย่างไร เหมือนรัฐบาลกำลังปล่อยให้พวกเขายืนลำพังบนปากเหว
" ขอฝากข้อเสนอไปยังรัฐบาล 3 ข้อคือ 1.รัฐบาลจะต้องจัดสรรงบให้กยศ. อย่างเพียงพอ กยศ.จะต้องปล่อยเงินให้ผู้กู้ปีละประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท จะได้จากผู้กู้กลับมาปีละ 2หมื่นล้านบาท ฉะนั้นรัฐบาลต้องจัดงบให้อย่างน้อยปีละ 2.2 หมื่นล้านบาท ขอให้รัฐบาลใส่งบประมาณที่จัดให้กยศ.เป็นงบฯประจำปีอย่างชัดเจน 2. กยศ.ต้องแก้ปัญหาบริหารจัดการระบบให้มีประสิทธิภาพ และ 3.กยศ ต้องเร่งปรับปรุงระบบกยศ.ดิจิทัล วางระบบ DSLให้เสร็จตามระบบภายในเดือนก.พ. 69 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้กู้ทุกราย และกยศ.ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่ามีประสิทธิภาพ เพราะเงินกู้กยศ.คือทางรอด คือการต่อลมหายใจเด็กได้เรียนหนังสือ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และการศึกษาไทยที่ไม่ฟรีจริง " นายปารมี กล่าวทิ้งท้าย