รัฐบาลเตือน ปีนี้ฝนมาเร็ว เสี่ยงโรคทางเดินหายใจ โควิด – ไข้หวัดใหญ่ แนะ ประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ขณะที่ สธ.ยืนยัน ยังควบคุมได้ โควิดไม่แรงเท่าปี 63 ย้ำเตือนประชาชนรักษาสุขภาพ
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยสุขภาพของประชาชนในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่พบการระบาดของโรคติดต่อในกลุ่มระบบทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ โดยขอให้ประชาชน ดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการติดเชื้อ เนื่องจากขณะนี้พบแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น
จากข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (Digital Disease Surveillance : DDS) กองระบาดวิทยา พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 พฤษภาคม 2568 มี ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 338,352 ราย อัตราป่วย 521.25 ต่อประชากรแสนคน และมีรายงานผู้เสียชีวิต 44 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตาย 0.013 กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ อายุ 5-9 ปี เท่ากับ 1,648.99 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 0-4 ปี (1,511.88) และกลุ่มอายุ 10-14 ปี (1,049.66) ตามลำดับ โดยข้อมูลจากการเฝ้าระวังเชื้อก่อโรคไข้หวัดใหญ่พบว่า เชื้อที่เป็นสาเหตุการระบาดส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1 (2009)
ส่วน โรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยสะสม 149,190 ราย อัตราป่วย 229.83 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 31 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 0.02 กลุ่มที่พบอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อายุ 0-4 ปี (375.44) รองลงมาเป็น กลุ่มอายุ 30-39 ปี (346.05) และกลุ่มอายุ 20-29 ปี (319.37) ตามลำดับ
“ทั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่ายังควบคุมได้ โรคไม่รุนแรงได้กับ ปี2563-64 แต่ได้เตือนให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการรุนแรงและเสียชีวิต สำหรับผู้ที่มีอาการ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แยกตัวไม่ใกล้ชิดกับผู้อื่น และรีบพบแพทย์ ส่วนประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีอาการสามารถป้องกันตนเองได้ ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วย โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุกูล กล่าว