นายกฯ ห่วงใยประชาชนแม่สาย สั่งติดตามสถานการณ์น้ำท่วมต่อเนื่อง พร้อมเตรียมหารือเมียนมาในอาเซียนซัมมิต แก้ปัญหาการระบายน้ำ ด้าน สธ. ลงพื้นที่บูรณาการช่วยกลุ่มเปราะบาง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกว่า เรื่องสารปนเปื้อนได้สั่งการแล้ว แต่ต้องดูรายละเอียดต่อ ซึ่งได้มีการคุยกันนอกรอบแล้ว และมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องนี้ด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ได้คลี่คลายลงแล้ว และมีการจัดตั้งโรงครัวในการดูแลพี่น้องประชาชน และจากที่พื้นที่แจ้งมา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต น้ำท่วมครั้งนี้คลี่คลายได้เร็ว เพราะเรามีบทเรียนจากปีที่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่ปีที่แล้วว่าเป้าหมายของเราจะทำอย่างไรไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ไม่ให้น้ำท่วมหนักเหมือนเดิม อะไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วต้องเบาลงทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรก็ตาม จะต้องเบาลง
“ฤดูฝนนี้เรามีการขุดลอกคูคลอง ซึ่งได้ทำไว้ตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้ว จึงทำให้น้ำท่วมครั้งนี้ไม่หนัก ซึ่งถือว่าช่วยได้เยอะมาก ส่วนเส้นทางของน้ำที่เราตกลงกับเมียนมา ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ในส่วนของเราเริ่มแล้ว แต่บังเอิญทางเมียนมามีปัญหาเรื่องแผ่นดินไหว เขาจึงเริ่มช้ากว่าเรา ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศและกองทัพคุยหมดแล้ว และเขาเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มแล้ว และการที่ตนไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจะมีการคุยกันนอกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้รวดเร็ว เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ทัน พี่น้องประชาชนจะได้ไม่รับผลกระทบเหมือนปีที่แล้ว”
เป็นห่วงประชาชนแม่สายสั่งการติดตามต่อเนื่อง
ทั้งนี้นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง จากรายงานพบว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะใน 4 ชุมชนของอำเภอแม่สาย ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ได้แก่ ชุมชนสายลมจอย ชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง
นายจิรายุ กล่าวว่า การช่วยเหลือประชาชนด้านสาธารณสุขในเบื้องต้น กระทรวงสาธารณสุขได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยได้จัดทีมสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลในพื้นที่ลงปฏิบัติงานเพื่อดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตของประชาชน พร้อมมอบชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น เฝ้าติดตามและประสานความช่วยเหลือแก่กลุ่มเปราะบางจำนวน 94 ราย ผ่านการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมถึงช่วยเหลือ อพยพผู้ป่วยติดเตียงจำนวน 7 ราย ไปยังบ้านญาติชั่วคราว นอกจากนี้ ได้จัดทีม MCATT ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน พูดคุยให้กำลังใจประชาชน มอบชุดทำความสะอาด และให้คำแนะนำด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในศูนย์พักพิงและบ้านเรือน พร้อมให้แนวทางดูแลตัวเองในช่วงน้ำท่วม
ทั้งนี้ ในส่วนของโรงพยาบาลในพื้นที่ได้เตรียมการรองรับดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ โดยจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงและกลุ่มเปราะบาง รองรับ 8 - 24 เตียง พร้อมเปิดช่องทางประสานงานรับแจ้งการเจ็บป่วย ตั้งจุดประสานรับยาในกรณียาหมด ยาขาด หรือยาสูญหาย สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว และตั้งจุดรับผู้ป่วยอุบัติเหตุและกรณีฉุกเฉิน พร้อมเวชภัณฑ์ ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ และถุงยังชีพ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงทีและทั่วถึงแล้ว
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยต่อประเด็นสารหนูปนเปื้อนในน้ำจากเหตุอุทกภัย เบื้องต้น กรมอนามัยและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจสอบ พบว่ามีสารหนูเกินค่ามาตรฐานในน้ำผิวดิน ที่แม่น้ำกกใน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และอีก 6 อำเภอในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย อ.เชียงแสน อ.แม่จัน อ.เวียงชัย อ.เวียงเชียงรุ้ง และ อ.แม่สาย ทั้งนี้ ไม่พบสารหนูเกินค่ามาตรฐานในน้ำประปา พืชผัก ปลา และไม่พบสารหนูในปัสสาวะของประชาชนกลุ่มเสี่ยง อีกทั้ง ไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการจากการได้รับสารหนู
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชน สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยโรงพยาบาลในพื้นที่ได้จัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ป่วย รวมถึงผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยโรคประจำตัว พร้อมจัดตั้งจุดรับยาและแจกจ่ายถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็วที่สุด ส่วนกรณีการปนเปื้อนของสารหนูในน้ำจากสถานการณ์อุทกภัย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำผิวดิน น้ำประปา อาหาร และสุขภาพอย่างเข้มงวด เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ในทุกมิติ“ นายจิรายุ กล่าวย้ำ