กมธ.ไอซีที วุฒิสภา ห่วง "อสมท" ต้องพึ่งตนเองเต็มที่ ปรับกลยุทธ์สู้เอกชน เสนอใช้สินทรัพย์-พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่สร้างรายได้ หวั่น กสทช. ไม่ชัดเจน กระทบอนาคตทีวีไทย
ในการประชุมหารือของ คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา นำโดย นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกับคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นำโดยนายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ณ อาคารอำนวยการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 3568 ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ ยุทธศาสตร์ของ อสมท. ในฐานะสื่อสาธารณะภายใต้ระบบดิจิทัล ท่ามกลางความท้าทายจากเทคโนโลยีสื่อใหม่ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค และการแข่งขันจากแพลตฟอร์มเอกชน ทั้งยังหารือถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมในการสิ้นสุดใบอนุญาตโทรทัศน์ดิจิทัลในปี 2572 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการไอซีที วุฒิสภา กล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วว่า แม้ อสมท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ต้องพึ่งพาตนเองอย่างเต็มที่ ไม่มีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ ขณะเดียวกัน มูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดก็ลดลง การแข่งขันกับเอกชนที่ได้เปรียบทั้งด้านต้นทุนและการเข้าถึงสปอนเซอร์ ยิ่งกดดันให้ อสมท.ต้องเร่งปรับตัว โดยเสนอให้ อสมท.หันมาใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน เช่น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือการสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มหลากหลาย เพื่อเพิ่มรายได้ พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐสนับสนุนกลไกการแข่งขันที่เป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการรายเดิมที่มีภาระทางสังคมควบคู่กับภาระธุรกิจ
ด้านนายชิบ จิตนิยม โฆษกคณะกรรมาธิการฯ ได้หยิบยกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการหมดอายุสัมปทานของทีวีดิจิทัลในปี 2572 ขึ้นหารือ พร้อมเสนอว่าหากมีการต่ออายุใบอนุญาตน่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่า เพราะหากเลือกใช้วิธีประมูลใหม่ อาจมีผู้เข้าร่วมจำนวนน้อย และในท้ายที่สุดประเทศอาจเหลือผู้ประกอบการเพียง 6-7 ราย พร้อมแสดงความกังวลถึงความไม่ชัดเจนของ กสทช.ว่า นโยบายและแนวทางของ กสทช. ในหลายประเด็นยังไม่มีความคืบหน้า ปัญหาเก่ายังไม่ถูกแก้ ไม่นับรวมปัญหาใหม่ที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง พร้อมระบุว่า อสมท.ยังคงเผชิญผลประกอบการขาดทุนทั้งในกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญในการรักษาสถานะและบทบาทในยุคดิจิทัล
