นักร้อง เรียงแถว ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ทำได้จริง หรือแค่ ฝันกลางวัน ?
เป็นสัปดาห์ที่ มีบรรดานักร้อง เรียงแถวเข้ายื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เป็นว่าเล่น ต้นสายปลายเหตุมาจาก คดีฮั้วสว.
เริ่มต้นจาก
นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ หมวด 4 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย ขอยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
โดยวันที่ 15 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา นายณฐพร ได้ไปยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้เอาผิดตาม ม.49 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้
จากนั้นวันที่ 20 พ.ค. 2568 ได้ส่งทีมทนายยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง 138 สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ฐานเซาะกร่อนบ่อนทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และ 21 พ.ค. 68 นายณฐพร ได้เดินทางไปที่ กกต. ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความฐานความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ใน ม.92 (1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และ ม.92 (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยหลังจากนี้ทาง กกต. จะทำหน้าที่เป็นไปรษณีย์ เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความต่อไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยรับคำร้องหรือไม่ หากรับคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทย ศาลจะเรียกไต่สวนโจทก์และจำเลย โดยคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาคดีดังกล่าว 1-2 เดือน
นอกจากนี้ ยังมี นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ “พรรคภูมิใจไทย” (ภท.) กรณีมีความเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว. ปี 2567 พร้อมระบุว่ามีหลักฐานการกระทำความผิดทั้งอั้งยี่ซ่องโจร และพฤติกรรมทั่วไปของแกนนำคนสำคัญพรรคภูมิใจไทย มีหลักฐานว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการมีการจัดตั้งคนใน จ.บุรีรัมย์ และพบเส้นทางการเงินเป็นหลักฐานการโอนเงิน
อีกทั้งพาดพิงไปถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่ามีหลักฐานว่าเมื่อกระบวนการเลือก สว. เสร็จสิ้นแล้ว นายอนุทินได้เรียก สว. ไปพบที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งเพื่อให้เขียนใบลาออก เป็นหลักการว่าคนพวกนี้ต้องอยู่ภายใต้การสั่งการของพรรคภูมิใจไทย และ สส.หญิงในภาคอีสานของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าหลักฐานชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนคงไม่กล้ามาเปิดหน้า และจะมีการขอคุ้มครองพยานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
แต่ทั้งสองคำร้อง จะมีผลให้ต้อง ยุบพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ ?
ฟังการวิเคราะห์จาก วิษณุ นุ่นทอง บรรณาธิการข่าวการเมือง The Better
>>> https://www.youtube.com/watch?v=PcuCBK9yV9E