รัฐบาล เอาจริง ! ตรวจเข้ม กวาดเกลี้ยง ร้านขายของก๊อปแบรนด์เนม กว่า 100 ร้าน บนห้างดัง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญการแก้ปัญหา “การละเมิดลิขสิทธิ์“ ทุกประเภท หลังจากศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล 1111 รับเรื่องร้องเรียนธุรกิจผิดกฎหมายและอบายมุขเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งเจ้าหน้าที่รับสินบนกระทำความผิดกฎหมาย มากกว่า 2,000 เรื่อง
และตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทีมฝ่ายสืบสวน ชุดเฉพาะกิจ ได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบนำเข้าและเปิดขาย สินค้าผิดกฎหมาย ละเมิดลิขสิทธิ์ อย่างโจ๋งครึ่ม มีความโยงใยไปถึงขบวนการค้ามนุษย์ ค้าแรงงาน ที่ผิดกฎหมาย เข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยว แต่มาทำงานเป็นพนักงานขาย ตามห้างสรรพสินค้าทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในหลายจังหวัดเช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต เมืองพัทยาและจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง
โดยรายงานที่ได้รับ กรณีขายของละเมิดลิขสิทธิ์ ระบุว่า จะจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ห้าหมื่นบาทไปจนถึงแสนบาทต่อเดือน ต่อร้านค้า ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนสินค้า ซึ่งข้อมูลระบุว่า มีเงินหมุนเวียนเหล่านี้ไปยังเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ ปีละไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทต่อเดือนต่อพื้นที่ และรายงานพบว่าเจ้าหน้าที่หลายแห่งใช้บัญชีม้า มีมือทำงาน รับโอนเคลียร์ ส่วนหากจะเปิดเว็บไซต์ เว็บพนัน เว็บโป๊ เว็บผิดกฎหมาย หากไม่อยากถูกจับกุมจะต้องจ่าย URL. ละ 2-5 หมื่นบาท แต่ละเจ้า จะมี URLต่อเว็บๆละ กว่า 20 URL
จากข้อมูลพบว่า บางจังหวัด มีมากกว่า 1 พัน URL ทั้งนี้ เชื่อว่า มีเงินสะพัดในระบบเหล่านี้ ปีละหลายพันล้านบาท ข้อมูลที่สำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานคณะทำงานจะดำเนินการกลั่นกรองส่งดำเนินการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปปท. ปปง. DSI ต่อไป
นายจิรายุ กล่าวว่า หลังจากรวบรวมข้อมูล และลงพื้นที่ หลายจังหวัดมากว่า 3 เดือน วันนี้ เวลา ประมาณ 12.30 น. ที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร ชุดเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยเฉพาะกิจ กระทรวงพาณิชย์สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมชุดเฉพาะกิจตำรวจ 120 นาย เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปราบปรามกรมทรัพย์สินทางปัญญากระทรวงพาณิชย์จำนวน 30 นาย เข้าจับกุมผู้กระทำความผิด ที่บริเวณชั้น 1-4 ซึ่ง 4 ชั้นดังกล่าวเปิดขายอย่างโจ๋งครึ่มมานานนับปี ส่วนหนึ่งปิดร้านหนีเจ้าหน้าที่ทำให้เข้าใจว่า มีข่าวรั่วตั้งแต่ช่วงเช้า ทั้งนี้ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ บก.ปอศ จะรายงานสรุปผลการจับกุมและของกลางดังกล่าว ซึ่งคาดว่า มีจำนวนมาก
ข้อมูลพบว่า เจ้าของที่เช่าพื้นที่กับมาบุญครอง ตรงกับรายงานลับ ว่ามีทั้งคนไทยและคนต่างด้าว แต่จะใช้ชาวต่างด้าวที่มาจากประเทศในเอเซียที่พูดภาษาอังกฤษได้ เป็นคนขายหน้าร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการเข้ามาในประเทศต่อไป สำหรับผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะซื้อสินค้าแบรนด์เนมซึ่งเป็นของก๊อปปี้ เช่น กระเป๋าเดินทางชื่อดังบางรุ่นของแท้ราคา 4-5 แสนบาทขายเพียง 7,500 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม หรือแม้กระทั้งนาฬิกายี่ห้อ “ป” ของจริงราคาเกือบ 5 ล้าน ก็สามารถซื้อได้ ราคาแค่หลักพันเท่านั้น
ทีมเฉพาะกิจสืบ พบว่า สาเหตุที่ขายกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เป็นเพราะมีบุคคลซึ่งเป็นนายหน้ารับเคลียร์โดยกล่าวอ้างว่า เคลียร์เจ้าหน้าที่แล้ว โดยกรณี “มาบุญครอง” ระบุว่า ได้จ่ายสินบนให้กับ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ซึ่งรายงานลับ จากการร้องเรียนผ่าน “1111 ”ทำเนียบรัฐบาลได้รับทราบข้อมูล หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งบุคคลผู้รับเคลียร์หน้าเสื่อให้กับเจ้าหน้าที่ ทั้งพื้นที่ และหน่วยอื่น มีชื่อว่า นส.อ นาย ต. และ สารวัตร น. ซึ่งจะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป