พรรคประชาชน เร่ง รัฐบาล เปลี่ยนมติ “ กพช.”

พรรคประชาชน เร่ง รัฐบาล เปลี่ยนมติ “ กพช.”
“ปชน.” จี้ “นายกฯ” เปลี่ยนมติ “กพช.” เพื่อยกเลิก ไม่ใช่ชะลอ หรือรอเอกชนลดราคา ปม “ค่าไฟแพง” หลังเฟสแรก ยังเหลืออีก 978.2 เมกะวัตต์ ที่ยังไม่ลงนามสัญญา

นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และนายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ร่วมแถลงกรณีการตอบกระทู้ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

โดย นายศุภโชติ มองว่า การดำเนินงานของกระทรวงพลังงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดในสองรอบ ได้แก่ เฟสแรกจำนวน 5,200 เมกะวัตต์ และเฟสที่สองจำนวน 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งมีปัญหาหลายด้าน เริ่มตั้งแต่ราคาที่รับซื้อไฟฟ้าสูงเกินไป จนทำให้ประชาชนต้องจ่ายทำไฟแพงกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงกระบวนการคัดเลือกผู้ชนะที่มีช่องโหว่ และเสียงต่อการทุจริต

นายศุภโชติ กล่าวต่ออีกว่า การรับซื้อไฟฟ้าราคาสูง เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ค่าไฟฟ้าสำหรับประชาชนแพงขึ้น เพราะราคาที่ตกลงกันในสัญญา ไม่ได้คำนึงถึงการลดลงของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในแต่ละปี เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และลม ลดลงอย่างมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การตั้งราคาสูงเกินไป โดยไม่ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของต้นทุน จึงทำให้เกิดภาระค่าไฟที่สูงเกินความจำเป็น

ในตอนนี้ การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเฟสที่สอง 3,600 เมกะวัตต์ ได้ถูกชะลอการลงนามในสัญญาหลังจากที่มีการเรียกร้องจากภาคประชาชน แต่การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเฟสแรก 5,200 เมกะวัตต์ ยังคงดำเนินต่อไป โดยที่ไม่มีการชะลอ หรือแก้ไขใดๆ ทั้งที่มีปัญหาเดียวกัน

เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นายพีระพันธ์ ได้ตอบกระทู้สดของตนในสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างว่า ไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะมีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และมีความกังวลว่า จะเกิดปัญหาหากการลงนามถูกยกเลิกกลางคัน

แต่เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ชี้แจงในคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร ว่า นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ทำหนังสือสอบถามจากกฤษฎีกาเกี่ยวกับการชะลอการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารอบ 5,200 เมกะวัตต์ แต่เพียงแค่สอบถามเกี่ยวกับการชะลอการรับซื้อไฟฟ้ารอบ 3,600 เมกะวัตต์ เท่านั้น ดังนั้น จากการชี้แจงของหน่วยงานนี้ คือมีไฟฟ้าอีก 978.2 เมกะวัตต์ ที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญา 

ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถยกเลิก หรืออย่างน้อยสั่งชะลอการลงนามได้ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด หากข้อชี้แจงจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาถูกต้อง หมายความว่า นายพีระพันธุ์ได้ให้ข้อมูลกับข้อเท็จจริงในการตอบกระทู้ตนผิด และไม่พยายามปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การกระทำเช่นนี้ ถือว่าเป็นการละเลยหน้าที่ และปล่อยให้กระบวนการที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริตดำเนินต่อไป

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการดำเนินการนี้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ ประชาชนต้องแบกรับค่าไฟแพงกว่าที่ควรจะเป็น จากกระบวนการทุจริตที่เกิดขึ้น การล็อคโควต้าในการคัดเลือกผู้ชนะ และการตั้งราคาที่ไม่เหมาะสม ทำให้ค่าไฟฟ้าแพงเกินไป เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงในปัจจุบัน ไม่ได้รับการสะท้อนในราคาที่ตั้งขึ้น

ขณะที่ ความไม่ยุติธรรมของทางภาครัฐ มีดารเอื้อประโยชน์ให้กับบางกลุ่ม และการสั่งชะลอการลงนามในสัญญาของบางกลุ่ม ทั้งๆ ที่มาจากกระบวนการรับซื้อเดียวกัน ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรรม และขาดความโปร่งใสในการดำเนินการจากภาครัฐ ซึ่งกลุ่มที่ไม่ได้รับการเอื้ออำนวย กลับถูกผลักดันออกจากกระบวนการนี้ และกลุ่มที่ได้รับการอำนวยความสะดวกกลับได้รับโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกัน

การรับซื้อไฟฟ้ารอบแรก 5,200 เมกะวัตต์ ยังเหลืออีก 978.2 เมกะวัตต์ ที่ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญา หมายความว่า รัฐบาลสามารถชะลอ หรือยกเลิกโครงการได้ แต่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีนายพีระพันธุ์ นั่งรวมอยู่ในคณะกรรมการด้วย จึงอยากให้ประชาชนตั้งคำถามกับทั้งสองท่านว่า ประเด็นนี้ควรมีการยกเลิก เพื่อไม่ให้ค่าไฟประชาชนแพงขึ้น 

ส่วนเหตุผลที่นายพีระพันธุ์เคยตอบ ด้วยการหยิบยกว่าเป็นข้อกฎหมายนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะในข้อกฎหมาย เขียนชัดเจนว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สงวนสิทธิ์ให้สามารถยกเลิกได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงมติของ กพช. ซึ่งเกี่ยวพันไปกับโครงการรับซื้อไฟฟ้า เฟสสอง 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการรับซื้อแบบเดียวกัน เพราะไม่มีการประมูล รวมถึงการรับซื้อไฟฟ้าในอนาคต อีก 5 ปีข้างหน้า ถ้ามีการประมูลด้วยราคาเท่าเดิม ค่าไฟควรจะลดลงทุกปี ตามค่าพลังงานหมุนเวียน ที่จะลดลงอยู่แล้ว

สำหรับความต้องการพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะสิ่งที่เอกชนต้องการคือ รอนโยบาย Direct PPA เพื่อให้สามารถเดินหน้าซื้อขายพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนได้โดยตรงจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไม่ใช่มาซื้อต่อจากการไฟฟ้าเท่านั้น

TAGS: #พรรคประชาชน #ค่าไฟแพง #พีระพันธุ์ #ข่าวการเมือง