ภาคปชช.จับตา ขายเหล้า - เบียร์วันพระใหญ่ ลั่น หากมีการสูญเสียใครจะรับผิดชอบ 

ภาคปชช.จับตา ขายเหล้า - เบียร์วันพระใหญ่ ลั่น หากมีการสูญเสียใครจะรับผิดชอบ 
เริ่มแล้ววันพระใหญ่แรก  รัฐบาล ไฟเขียว ขายเหล้า -เบียร์ ได้  "หมอแท้จริง" ถามกระตุ้นศก. หรือคนตาย จับตาคืนนี้พบคนบริสุทธิ์สูญเสียจากคนเมาใครจะรับผิดชอบ  ด้านประธาน.กมธ.สธ.วุฒิสภา  แนะ ทบทวน

วันที่ 11 พ.ค. ซึ่งตรงกับวันวิสาหบูชา  ซึ่งเป็นวันพระใหญ่แรก  ที่รัฐบาลอนุญาตให้สามารถขายเหล้า- เบียร์ ได้ ประกอบไปด้วย    วันมาฆบูชา วันวิสาขบา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา หลังวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา  ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศของ  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พ.ค.  เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดิ่มแฮลกอฮอล์ พ.ศ. 2568 แต่เปิดช่องให้ขายได้ในบริเวณ สนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ , สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ  ,สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ตามที่รมว.สาธารณสุขกำหนดโดยคำแนะนำของรมว.มหาดไทย , โรงแรม และ สถานที่ซึ่งใช้จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติหรือนานาชาติ  และ มีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกัน ตามที่รมว.สาธารณสุขกำหนด โดยการแนะนำของรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา 

น.พ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ  กล่าวว่า  จากสถิติช่วงเปิดผับตี 4ที่ผ่านมา  ก็พบว่า มีอุบัติเหตุจากเมาไม่ขับเพิ่มขึ้น รัฐบาลก็ยังไม่มีมาตรการรองรับและรับผิดชอบอย่างเพียงพอ  และต่อมายิ่งมาเปิดโอกาสให้จำหน่ายเครื่องดื่มแฮลกอฮอล์ในวันพระใหญ่  เพิ่มมาอีก   อยากถามว่าคืนนี้หากพบว่ามีอุบัติเกิดขึ้น และเป็นผู้บริสุทธิ์ จากคนที่เมาสุรารัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะ ที่ผ่านมาจากสถิติพบว่าในวันพระใหญ่ พบว่าจำนวนคนดื่มน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญหากเทียบ กับวันที่ให้จำหน่ายสุราได้ 
 
ในขณะที่เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ เพราะมีคนนับถือมากกว่าร้อยละ 90 และศีลข้อ 5 ก็ระบุว่า ละเว้นจากการดื่มสุราเมรัยและของมึนเมา แต่กลับส่งเสริมเช่นนี้  อีกทั้งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นหมอ ตำรวจ ศิลปินดารา ซึ่งเมาแล้วขับ  แล้วเกิดอุบัติเหตุยังควบคุมได้ไม่ดีเลย  ทั้งที่จริงๆควรจะต้องควบคุม ให้เข้มงวดขึ้นเสียก่อน 
 
ที่ผ่านมาเคยเสนอมาตรการต่างๆควบคุมอย่างเข็มงวด  อาทิ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ  ที่คนบาดเจ็บ ล้มตาย จะต้องให้ตรวจแอลกอฮอล์ทุกกรณี มิให้ใช่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่  หรือ อุบัติเหตุทำให้คนตาย จะต้องติดคุกอย่างเดียว แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ  และคนผิดก็แค่รอลงอาญา  ไม่กลัวต่อความผิด   ฉะนั้นรัฐบาล  ทำไมไม่ออกกฎหมายส่งเสริมการดื่มสุรา แทนกฎหมายควบคุมไปเลย   ทั้งนี้เชื่อว่า นอกจากวันพระใหญ่แล้ว ต่อไป วันก่อนเลือกตั้งก็อาจจะอนุญาตให้ขายเหล้าได้ด้วยใช่หรือไม่ 
 
เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ  กล่าวว่า รัฐบาลอ้างกระตุ้นเศรฐกิจ และการท่องเที่ยว  ขอตั้งคำถามว่า เศรษฐกิจของใคร ใช้ของคนผลิต คนจำหน่าย เครื่องดื่ม ที่มีผลประโยชน์มหาศาลหรือไม่ และรัฐบาลได้คำนึงถึงอีกด้านหรือไม่ว่า จะไม่เป็นการกระตุ้นให้คนตายเพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่ เพราะที่ส่วนใหญ่คนตายกันก็ไม่ใช่คนเมา  แต่เป็นคนที่ใช้รถใช้ถนนและไม่ดื่ม แถมยังเป็นหัวหน้าครอบครัวอีกด้วย อยากถามว่าหากเกิดเรื่องเหล่านี้อีกใครจะรับผิดชอบอย่างไร  
 
ขณะที่ น.พ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข  วุฒิสภา  กล่าวว่า  กฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์ ที่ใช้มานานและ ไม่อนุญาตไม่ให้ขายสุราในวันพระใหญ่  และ ยังเป็นการรักษาศีล 5 ซึ่งประชาชนก็คุ้นชินมานานแล้ว  
 
แต่เมื่อประกาศสำนักนายกฯออกมาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว   และออกมาแบบโดดๆไม่มีขีดจำกัด และ มาตรการควบคุมรองรับ อาจทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมา เพราะจะกระตุ้นให้เดินทางไปข้างนอกบ้านเพื่อดื่มสุราและเกิดอุบัติที่เหตุได้จากการขับรถ 
  
น.พ.ประพนธ์   กล่าวว่า  ที่ผ่านมาบุคลากรทางการแพทย์ และ สาธารณสุขก็ทำงานหนักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลปีใหม่ และ สงกรานต์ ก็หวังจะให้วันพระใหญ่เป็นวันหยุด  หรือทำงานน้อยลง  ก็จะทำไม่ได้อีกต่อไป 
 
ดังนั้นในเมื่อประกาศมีผลบังคับใช่แล้ว ก็ต้องมาดูสถิติ ว่าการกระตุ้นเศรษฐได้มากหรือเพียงเล็กน้อย นิด หากเทียบกับชีวิต และ ทรัพย์สินของประชาชน ที่สูญเสียว่าจะคุ้มค่าหรือไม่  โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ เช่นกระทรวงสาธาณสุข และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ ฯลฯ ต้องทำข้อมูลเปรียบเทียบ  หากเห็นว่าไม่คุ้มค่าก็อาจจะเสนอให้รัฐบาลทบทวนทันที

TAGS: #วันพระใหญ่ #ขายเหล้า #แอลกอฮอล์ #นพ.แท้จริง