รมว.พาณิชย์ขึ้นเวที "Mission Thailand" เผยผลเจรจาสหรัฐฯ คืบหน้า ยันสหรัฐฯหนุนไทยเตรียมข้อเสนอเข้ม หวังผลักดันการส่งออกโตไม่สะดุด พร้อมเร่งเครื่อง FTA ไทย–อียู ปิดดีลในสิ้นปี 2568
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รมว.พณ.) เข้าร่วมเวทีสัมมนา TNN 16 Dinner Talk “Mission Thailand ภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจ” ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ ช่วงค่ำวันที่ 30 เมษายน 2568 เพื่อร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์การพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ และตัวแทนรัฐบาลตอบคำถามจากภาคเอกชนในช่วง “เอกชนถาม รัฐบาลตอบ”
ในเวทีเสวนา นายพิชัยร่วมกับ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยฯ กล่าวถึงความกังวลของภาคเอกชนต่อนโยบายการค้าและมาตรการด้านภาษีของสหรัฐฯ โดยนายพิชัย ย้ำว่ารัฐบาลติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยตนในฐานะทีมเจรจา ยืนยันว่าได้มีการติดต่อกับนายจามิสัน กรีเออร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
“ขอให้มั่นใจ ทีมของรัฐบาลโดยท่านพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทีมกระทรวงพาณิชย์ที่นำโดยท่านปลัดวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ และผม ทำงานกันหนัก มีรายละเอียดการเจรจาทุกขั้นตอน เชื่อว่า ไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กันมายาวนาน จะหาทางออกที่เป็นประโยชน์ร่วมกันได้แน่นอน และมั่นใจว่าจะสามารถเจรจาได้สำเร็จ“
รมว.พาณิชย์ ยังระบุว่า ขณะนี้บริษัทสหรัฐฯ รายใหญ่ เช่น Western Digital, Seagate และบริษัทอื่นๆ ซึ่งลงทุนในไทย ได้เข้าหารือและให้ข้อมูลเพื่อช่วยไทยเตรียมข้อเสนอที่ชัดเจน ไทยไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับแรกของผู้ส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบ การเจรจาจึงง่ายขึ้น และจะดำเนินการให้สำเร็จโดยเร็ว โดยในวิกฤตนี้ ไทยยังมีโอกาสช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากประเทศอื่นในสินค้าบางรายการ เช่น ถุงมือยาง ยางรถยนต์ ผลิตภัณฑ์จากยาง ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลไม้แปรรูป ที่ไทยสามารถเพิ่มยอดส่งออกได้
สำหรับมาตรการป้องกันปัญหาสินค้าสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิด ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเข้มงวดการออกเอกสารรับรองถิ่นกำเนิด (Certificate of Origin) เพื่อให้สินค้าที่ส่งออกเป็นสินค้าจากไทยจริง ไม่ใช่สินค้านำเข้ามาเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแล้วส่งออก ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานออกหนังสือรับรอง Form C/O สำหรับสินค้าเฝ้าระวังไปสหรัฐฯ เพียงหน่วยงานเดียว
และท่านนายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าสินค้าต่างชาติผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านมาตรฐาน โดยมอบหมายให้ตนเป็นประธาน รัฐบาลได้จับกุมสินค้าผิดกฎหมายแล้วกว่า 29,675 คดี มูลค่า 1,796 ล้านบาท และดำเนินคดีเกี่ยวกับนอมินีไปแล้ว 852 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 15,188 ล้านบาท
ในด้านความคืบหน้าการเปิดตลาดการค้าเสรี (FTA) นายพิชัยเผยว่า ปีนี้ไทยลงนาม FTA ไปแล้ว 2 ฉบับ คือ ไทย–เอฟตา และไทย–ภูฏาน โดยตั้งเป้าเร่งปิดการเจรจา FTA ไทย–อียู ให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ รวมถึง FTA อื่น ๆ เช่น ไทย–เกาหลีใต้ ไทย–ยูเออี และอาเซียน–แคนาดา
นายพิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า การส่งออกไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 ขยายตัว 5.4% มูลค่า 300,529.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ทะลุ 10 ล้านล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัว 15.2% โดยตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศในช่วงเวลา 6 เดือน การส่งออกไทยโตอย่างต่อเนื่องขยายตัวเฉลี่ยถึง 12.9% สะท้อนความเข้มแข็งของการส่งออกไทยที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพราะผลกระทบจากภาษีทรัมป์อย่างเดียว
และรัฐบาลพร้อมเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถส่งออกในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น PCB เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า AI และ Data Center โดยจะร่วมมือใกล้ชิดกับภาคเอกชนในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลกต่อไป