นายกฯประชุมแก้ปัญหายาเสพติดข้ามแดน ชี้ราคายาเสพติดแพงขึ้น สะท้อนผลการปราบปราม เน้นย้ำ ให้ความรู้ - โทษ แก่เด็ก และเยาวชน พร้อมให้โอกาสผู้เสพกลับคืนสังคม ตอบสื่อยอมรับไข้ขึ้นแต่ยังไหว

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดข้ามแดนในพื้นที่ ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม หรือ นรข. จังหวัดนครพนม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ กองทัพบก โดยมีแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วย บัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ นบ.ยส.24 , กองทัพเรือ โดย นรข. , ตำรวจ และฝ่ายปกครอง 

นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังรายงานจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ว่า จังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดที่มีชายแดน ติดกับ สปป. ลาว โดยมีแม่น้ำโขงกั้น และมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามช่องทางธรรมชาติ จึงต้องร่วมมือ วางแผน ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ในเรื่องการหาข่าว และร่วมติดตามการจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีข้ามแดน พร้อมขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์การสกัดกั้น การตรวจ และการป้องกันชายแดน โดยขอเครื่องมือ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งกล้องวงจรปิดไร้สาย โดรน เพื่อบินตรวจตราการลักลอบลำเลียงยาเสพติด กล้องสแกนใบหน้า กล้องตรวจจับทะเบียนรถ เป็นต้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่วันนี้มารายงาน และมาถึงสถานที่จริง ซึ่งทาง ป.ป.ส. มีการจัดการหลายพื้นที่ และกองทัพก็ช่วยกันดูโดยตอนนี้จะเห็นจากตัวเลขว่าเกิดผลอย่างมาก เราเทียบแค่เรื่องราคายาเสพติดก็ได้ ตอนที่ตนเองลงพื้นที่หาเสียงเมื่อสองปีที่แล้ว จำได้ว่าชาวบ้านตะโกนขึ้นมาตอนนี้ยาบ้า 5 เม็ด ราคา 100 บาท ตนเองก็มองว่ามันถูกมาก แต่ตอนนี้ราคาขึ้นไปกว่า 40 บาทต่อ 1 เม็ด ซึ่งจะเห็นได้ว่าก็มีปริมาณลดลง และหายายากขึ้นเยอะ ก็ขอขอบคุณทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของแนวชายแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่จะมีการขนส่งผ่านประเทศไทยด้วย และได้คุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถ้าการส่งยาเสพติดมียากขึ้น ก็มีการส่งได้หลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งทางบก ทางน้ำทางอากาศ ดังนั้น ขอให้รับมือเรื่องนี้อย่างดี และหากมีอุปกรณ์เสริมใดที่ต้องการ และเป็นประโยชน์ในการช่วยสแกนดู ก็อยากให้เน้นย้ำในเรื่องนี้ว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างที่สามารถช่วย และจะไม่ทำให้มันกระจายไปสู่ชุมชนได้เร็ว ก็จะยิ่งดีขอให้ดูเรื่องนี้ให้ชัดเจน

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ที่สำคัญเรื่องการศึกษาสังคมเราต้องไม่ลืมที่จะเน้นย้ำว่า ยาเสพติดมีเด็กวัยรุ่น มีเด็กอายุน้อยลงเรื่อย ๆ ที่อยากทดลองยาเสพติดเพราะมาในรูปแบบที่สวยงาม น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้เข้าถึงเด็กอายุน้อยได้มากขึ้นไปอีก ซึ่งล่าสุดเห็นว่าเป็นยาเสพติดรูปลาบูบู้ ทำให้น่ารัก แต่ร้ายแรง ซึ่งหากสถานสถานศึกษาสามารถปลูกฝังได้ว่ามันร้ายแรงอย่างไร มีผลกระทบอย่างไร จึงต้องขยายผลที่ร้ายแรงให้ชัดเจนให้เยาวชนทราบว่าโทษของมันเป็นอย่างไร และต้องไม่ลืมที่จะให้ความรู้ด้วย เพราะบางทีหน้างาน อาจไม่มีการคิดที่ดีถ้วน แต่ต้องมีการสอนให้รู้ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อตัวเองครอบครัวและสังคมในระยะยาว

ส่วนกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อยากดูในเรื่องของผู้เสพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องให้โอกาสในการกลับคืนเข้าสู่สังคม คนที่ก้าวพลาด ก็อยากได้โอกาสมาว่าจะพลาดน้อย หรือพลาดมาก โดยหากเราเป็นคนที่พลาดไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ก็อยากให้โอกาส ดังนั้น ก็ต้องใจเขาใจเรา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคนที่ต้องมาบำบัด หรือคนที่ช่วยดูแลก็อยากให้มีหน่วยงานที่ช่วยกันอบรมในเรื่องนี้ว่าบางทีอาจต้องรับมือกับผู้ที่เสพยา ต้องอดทนเพื่อก้าวข้ามผ่านไปอย่างไร และขอขอบคุณอีกครั้งที่ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ขอให้ทำเรื่องนี้ให้หนักแน่นต่อไป 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่าการประชุม นายกรัฐมนตรีมีท่าทีอ่อนเพลีย และจิบเครื่องดื่มเกลือแร่

ภายหลังจากเสร็จภารกิจเป็นประธานการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากห้องประชุม และเข้าไปพักที่ห้องรับรอง ก่อนที่จะมีพยาบาลจากโรงพยาบาลสกลนคร ซึ่งมาประจำการที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ได้เข้าไปภายในห้องรับรองจำนวน 2 คนพร้อมอุปกรณ์ปฐมพยาบาล ประมาณ 10 นาที ก่อนจะปฏิบัติภารกิจพบ ให้กำลังใจผู้ที่ผู้ที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูฟื้นฟูและบำบัดยาเสพติดยาเสพติด รวมถึงผู้ที่ได้คืนสู่สังคมแล้วพูดให้กำลังใจ  

โดยก่อนเดินทางออกจากหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าไข้กลับใช่หรือไม่นายกรัฐมนตรีตอบว่า ใช่ค่ะ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าไหวใช่หรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบว่า ไหวค่ะ  

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับไปพักผ่อน ก่อนที่ในช่วงค่ำ 19.00น. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการจะไปสักกการะพญาศรีสัตตนาคราช และจุดเรือไฟบก ที่ลานพนมนาคา อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม