คาดสิ้นเดือนนี้รู้ผลคดีชั้น14 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองไต่สวนไม่ไต่สวน

คาดสิ้นเดือนนี้รู้ผลคดีชั้น14 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองไต่สวนไม่ไต่สวน
คดีชั้น14 ใกล้ชัดเจน ปม "ชาญชัย" ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ไต่สวนและออกหมายจับ "ทักษิณ" คาดสิ้นเดือนนี้รู้ผลไต่สวนไม่ไต่สวน

ความคืบหน้าคดีชั้น 14  นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ดำเนินการไต่สวนฯและออกหมายจับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาขังไว้ตามหมายของศาล เนื่องจากที่ผ่านมา นายทักษิณ ไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษา และถูกส่งตัวไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ นั้น  เดิมศาลได้นัดฝั่งคำสั่งในวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ศาลก็ได้เลื่อนฟังคำสั่งออกไปอีก ล่าสุดมีรายงานว่าคดีดังกล่าวจะมีความชัดเจนไม่เกินสิ้นเดือนนี้

สำหรับคำร้องดังกล่าวของ นายชาญชัย นั้น เป็นยื่นร้องครั้งที่3 โดยได้ยื่นคำร้องเป็น 2 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ทำการไต่สวน กรณีกรมราชทัณฑ์ นำนักโทษออกจากเรือนจำ โดยขัดหมายศาล และฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาล โดยไม่เข้ากรณีที่จะนำนักโทษออกไปนอกเรือนจำได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 246 ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำการไต่สวนและออกหมายจับจำเลยมาขังไว้ตามคำพิพากษาต่อไป

ฉบับที่ 2 ยื่นคำร้องต่อประธานศาลฎีกา ขอให้มีคำสั่ง ให้นำ คำร้องขอไต่สวนดังกล่าว เข้าพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพราะเป็นเรื่อง สำคัญ กระทบต่อระบอบการปกครอง กระทบต่อพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ และความศักดิ์สิทธิ์ของศาล และเป็นการถ่วงดุลการก้าวล่วง ทำลายล้างอำนาจตุลาการของฝ่ายบริหาร

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นายชาญชัย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ในประเด็นว่า นายทักษิณ ได้รับโทษจำคุก และได้ขอพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษเหลือ 1 ปี แต่เหตุใดจึงไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลแม้แต่วันเดียว โดยมีรายละเอียดข้อเท็จจริง พฤติกรรมการกระทำของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ป.วิ.อาญา และคำสั่งของศาลหรือไม่

โดยศาลได้วินิจฉัยว่า ศาลออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดไปแล้ว การบังคับโทษและอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาล จึงไม่ต้องไต่สวนให้ยกคำร้อง

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นายชาญชัย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลครั้งที่ 2 ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2562 ว่าด้วยหมวด 9 การบังคับคดีข้อ 61 และ 62 ว่า มีกฎหมายมาตรา 246 และบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงมาตรา 6 ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ที่ระบุ มิให้ออกกฎกระทรวง หรือมาตรการบังคับโทษด้วยวิธีการอื่น ที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กรณีกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติต่อ นายทักษิณ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่ การที่ นายทักษิณ ออกมานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นการทุเลาโทษ และชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ศาลจึงมีคำวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีไม่ปรากฏ มีการทุเลาการบังคับโทษ จึงไม่ต้องตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 และมาตราอื่นที่ผู้ร้องอ้างมา จึงไม่ต้องไต่สวนให้ยกคำร้อง
 

TAGS: #คดีชั้น14 #ทักษิณ #ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง #ชาญชัย #อิสระเสนารักษ์