โดย... สมาน สุดโต
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญหิรัญบัฏ พัดยศ เครื่องประกอบสมณศักดิ์ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และอัญเชิญสัญญาบัตร พัดยศ ถวายพระราชาคณะ ที่ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ และตั้งสมณศักดิ์ 8 รูป
ณ พระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร
พระราชาคณะทั้งนั้น ล้วนแต่เป็นพระธรรมทูต สายอินเดีย-เนปาล
ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนที่พระธรรมทูตจากประเทศเดียวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจำนวนมากเช่นนี้
ในการนี้ เจ้าคุณวีรยุทธ ได้รับการสถาปนา เป็นพระพรหมวชิรโพธิวงศ์ รองสมเด็จพระราชาคณะ ซึ่งเป็นรูปแรกในประวัติพระธรรมทูตต่างประเทศ
ส่วนประวัติของพระพรหมวชิรโพธิวงศ์ มีบันทึกในหนังสือ ร้อยมุมมอง ส่องอินเดีย ที่ท่านมอบให้แก่ผู้ที่ไปมุทิตา ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุฯ ดังนี้
การศึกษา
ท่านจบปริญญาเอก (ดร.) พ.ศ 2550
และได้รับพระราชทาน ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศไทย ถึง 6 มหาวิทยาลัย
ลำดับสมณศักดิ์
พ.ศ.2533 พระครู ฐานานุกรม ในพระสุเมธาธิบดี(บุญเลิศ)วัดมหาธาตุฯ
พ.ศ 2543 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระวิเทศโพธิคุณ
พ.ศ 2547 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชรัตนรังษี
พ.ศ 2556 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่พระเทพโพธิวิเทศ
พ.ศ 2559 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมโพธิวงศ์
พ.ศ 2568 เป็นรองสมเด็จ(เจ้าคณะรอง) ที่ พระพรหมวชิรโพธิวงศ์
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา อินเดียและหัวหน้าพระธรรมทูต สายอินเดีย-เนปาล พ.ศ 2554 ถึงปัจจุบัน
ที่ปรึกษาประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูต ไปต่างประเทศ ที่พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม ดำรงตำแหน่งประธาน
ประธานสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ที่มีสุภชัย วีระภุชงค์ เป็นเลขาธิการ
ผลงานดัานสงเคราะห์ เป็นผู้ริเริ่มตั้งสถานพยาบาลที่กุสินารา เพื่อสงเคราะห์ชาวอินเดียและผู้แสวงบุญทั้งพระสงฆ์และฆราวาส และสานต่อโรงพยาบาลพระพุทธเจ้าที่วัดไทยพุทธคยา
ผลงานด้านเผยแพร่ เป็นผู้สนองผู้ศรัทธาและริเริ่มสร้างวัดไทยในอินเดียหลายวัด จัดบรรพชาอุปสมบทแก่ชาวอินอินเดียทุกปี เช่นเดียวกับเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ข้าราชการไทยที่ลาบวชที่ประเทศอินเดียปีละหลายคณะ
นิพนธ์หนังสือเกี่ยวกับพุทธประวัติ สาวก และประเทศอินเดียจำนวนมาก
ท่านมีชื่อเสียงในการบรรยายเรื่องเด่นๆในอินเดียให้แก่ผู้แสวงบุญชาวไทยด้วยสำนวนโวหารที่ผู้ฟังประทับใจจนลืมไม่ลง
ที่ชาวไทยไปอินเดียพูดถึงตลอดคือท่านสร้างหัองน้ำระดับโรงแรม 5 ดาวในวัดต่างๆให้ผู้แสวงบุญใช้เป็นที่ประทับใจไปตามๆ กัน (ห้องน้ำในอินเดียหายาก เป็นที่อึดอัดสำหรับสุภาพสตรี เพราะชาวอินเดียนิยมไปทุ่ง)
สรุปว่าเข้าวัดไทยในที่ต่างๆ ของอินเดียที่เจ้าคุณวีรยุทธ์ ดูแล ได้ทั้งอิ่มบุญ อิ่มท้อง อิ่มใจ และคลายทุกข์
เมื่อวันที่ 5 เมษายน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้แทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอัญเชิญหิรัญบัฏ พัดยศ เครื่องประกอบสมณศักดิ์ ถวาย
พระพรหมวชิรโพธิวงศ์ (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ, Ph.D.) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า สถาปนาเป็นรองามเด็จ(เจ้าคณะรอง) ชั้นหิรัญบัฏ เป็นลำดับแรก
จากนั้นเชิญสัญญาบัตร พัดยศ ที่ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเลื่อน และตั้งสมณศักดิ์ จำนวน 7 รูป ถวายแด่
1)พระราชโพธิวิเทศวัชรสุธี (สุพจน์ กิตติวณฺโณ, ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล
2) พระราชโพธิวิเทศวัชรมุนี (สมพงศ์ ญาณธีโร, ดร.) เจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
อินเดีย
3) พระโพธิวิเทศวัชรวิสุทธิ์ (นิพนธ์ ญาณวีโร, ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดลัฏฐิวันสวนตาลหนุ่ม อินเดีย
4) พระโพธิวิเทศวชิโรดม (ณรงค์ อุตฺตมวํโส) เจ้าอาวาสวัดพระรามอโยธยา อินเดีย
5) พระโพธิวิเทศวัชรธาดา (รังสิต ปัญญาเมธี) เจ้าอาวาสวัดไทยนวราชรัตนาราม อินเดีย
6) พระโพธิวิเทศวชิรสิริ (สงกรานต์ กิตฺติวํโส, ดร.) เจ้าอาวาสวัดโพธิโมลีราชบัณฑิต อินเดีย
7)พระโพธิวิเทศวัชรสุนทร (ธวัชชัย ธมฺมชโย) เจ้าอาวาสวัดสันโป่งพุทธคยาอินเดีย