อธิบกรมปภ. รายงานความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหว พบ 11 จังหวัดได้รับผลกระทบ เผยยอดผู้สูญหายนับร้อย ดับแล้วเกือบ 10 ราย
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า มีจังหวัดรายงานได้รับความเสียหาย จากเหตุแผ่นดินไหวแล้ว จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่
1.จังหวัดสมุทรสาคร 2.เชียงใหม่ 3.เชียงราย 4.แพร่ 5.แม่ฮ่องสอน 6.ลำปาง 7.ชัยนาท 8.ลำพูน 9.เลย 10.กำแพงเพชร 11.กรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย และรายงานข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับกรุงเทพมหานครนั้น มีรายงานอาคารร้าวและถนนทรุดตัว และมีอาคารถล่ม 1 จุด โดยเป็นอาคารของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จากรายงาน ณ เวลา 21.30 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย เสียชีวิต 8 ราย และสูญหายอีก 101 รายซึ่งทาง กทม. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์มีผลกระทบ และความเสียหายเป็นวงกว้าง กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้ประกาศยกระดับ การจัดการสาธารณภัยกรณีแผ่นดินไหว เป็นสาธารณภัยระดับ 3 (สาธารณภัยขนาดใหญ่) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งเป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564- 2570 เพื่อให้การสั่งการ อำนวยการ และประสานการปฏิบัติในทุกระดับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด จะแปรสภาพเป็นศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดขึ้นตรง การสั่งการอำนวยการจากกองบัญชาการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
นายภาสกร กล่าวว่า ในเหตุการณ์อาคารถล่มในเขตกรุงเทพมหานคร ได้สั่งระดมทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ กทม. ในการช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในอาคารที่ถล่ม และสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตในพื้นที่ใกล้เคียงเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการให้พร้อมออกปฏิบัติการทันที โดยกำหนดให้สถาบันพัฒนาบุคลากร ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เป็นจุดระดม ทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area)
ในช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 9.30 น.จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้า ของสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ร่วมประชุมเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบถ้วนในทุกด้าน