กรมการปกครองลุยจับต่อเนื่อง คอนโดรายวัน 4 แห่ง ย่านสุขุมวิท-อโศก

กรมการปกครองลุยจับต่อเนื่อง คอนโดรายวัน 4 แห่ง ย่านสุขุมวิท-อโศก
มท.1 สั่ง กรมการปกครอง ลุยจับต่อเนื่อง ดำเนินคดีผู้นำห้องในคอนโดมิเนียมมาปล่อยเช่ารายวัน จำนวน 4 แห่ง ย่านสุขุมวิท-อโศก

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2568 กรมการปกครองได้นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่นำห้องของอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นการกระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 หลังจากนั้น ได้มีประชาชนเข้ามาร้องเรียนเพิ่มเติมที่ศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง ดังนั้น เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการจัดระเบียบสังคมและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการให้กรมการปกครองเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยทันที 

ล่าสุด กรมการปกครอง นำโดยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญชาศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายรอมดอน หะยีอาแว ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงภายใน ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกสร รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้ดำเนินการสืบสวนตามข้อร้องเรียนพบผู้นำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน จำนวน 3 แห่ง และสถานที่พักรายวันซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม จำนวน 1 แห่ง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำอันฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 มาตรา 4, 15 และ 59 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ โดยทั้ง 4 แห่ง เจ้าพนักงานได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ และดำเนินคดีโดยมีรายละเอียด ดังนี้  

เป้าหมายที่ 1 นายพิพัฒน์ยชญ์ วัชฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนกำกับและตรวจสอบ และนายสานุพัฐ เด่นธรรม ผู้อำนวยการส่วนการอนุญาตโรงแรมและกฎหมายสถานบริการ พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครองจากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เข้าตรวจสอบอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ย่านซอยสุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ตามที่ได้รับข้อร้องเรียนจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมคอนโดมิเนียมแห่งนี้ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีผู้นำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวันเป็นจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวที่ได้มาเช่าห้องพักได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ทำให้ทรัพย์ส่วนกลางได้รับความเสียหายเนื่องจากมีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังสร้างความกังวลใจแก่ผู้พักอาศัยในเรื่องของความปลอดภัย และจากการสืบสวนยังพบว่า มีกลุ่มนายทุนต่างชาติเข้าถือครองห้องชุดในอาคารจำนวนหลายห้องและเป็นนิติบุคคลของอาคารชุดดังกล่าวอีกด้วย เจ้าพนักงานจึงได้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวทำการจองห้องพักจำนวน 1 ห้อง ผ่านเว็บไซต์ Agoda ในวันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นเวลา 1 คืน ในราคาประมาณห้องละ 2,100 บาท ต่อมาสายลับได้ทำการติดต่อกับแอดมินที่ดูแลห้อง ใช้ชื่อว่า Mr.Pin แจ้งว่าให้เข้ามารับคีย์การ์ดที่บริเวณด้านหลังของอาคาร ซึ่งจะมีสำนักงาน Agency ตั้งให้บริการอยู่ ขณะที่สายลับเข้ามาติดต่อลงทะเบียนเข้าพัก พบว่ามีผู้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากมารอติดต่อเข้าพัก ซึ่งสายลับได้รับคีย์การ์ดห้องพักหมายเลข 2702 จึงได้เข้าไปภายในอาคารและขึ้นไปยังห้องพักหมายเลข 2702 พบว่ามีลักษณะเป็นห้องแบบหนึ่งห้องนอน มีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์สำหรับใช้วันต่อวัน ลักษณะเหมือนห้องพักตามโรงแรมทั่วไป

เจ้าพนักงานจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบสำนักงาน Agency ดังกล่าว พบว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องพักหมายเลข 2702 เป็นชาวต่างชาติ โดยมี Agency เป็นผู้นำห้องพักมาปล่อยเช่ารายวัน เจ้าพนักงานจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และร้องทุกข์กล่าวโทษสำนักงาน Agency เจ้าของกรรมสิทธิ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15 และ 59 ต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

เป้าหมายที่ 2  นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ และนายชนะ ชุ่มช่วง ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครองจากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าตรวจสอบ อาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ย่านซอยสุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. ตามที่ได้รับข้อร้องเรียนจากนิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าว ว่ามีนำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเกรงว่าผู้อยู่อาศัยในอาคารจะไม่ได้รับความปลอดภัยและไม่สะดวกกับการใช้พื้นที่ส่วนกลาง เจ้าพนักงานจึงได้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว (สายลับ) ทำการจองห้องพักจำนวน 1 ห้อง ผ่านเว็บไซต์ Airbnb ในวันที่ 12 มี.ค. 2568 เป็นเวลา 1 คืน ในราคาห้องละ 333.82 USD จากนั้นสายลับได้ติดต่อแอดมิน ที่ใช้ชื่อว่า Sky ผ่านแอปพลิเคชัน What app โดย Sky แจ้งว่าให้ติดต่อและมาพบกับบุคคลชื่อ Sha ที่อาคาร Master Centrum ซึ่งนางสาว Sha เป็นหญิง สัญชาติฟิลิปปินส์ ได้พาสายลับเดินทางมายังอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ดังกล่าว และพาขึ้นมายังห้องพักหมายเลข 333/408 ชั้นที่ 50 พบว่ามีลักษณะเป็นห้องแบบหนึ่งห้องนอน มีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์สำหรับใช้วันต่อวัน ลักษณะเหมือนห้องพักโรงแรมห้าดาว เจ้าพนักงานจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบพบว่า ห้องพักหมายเลข 333/408 เจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นบุคคลสัญชาติไทย 

เจ้าพนักงานจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจับกุมนางสาว Sha พร้อมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องพัก ในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15 และ 59 ต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

เป้าหมายที่ 3 นายศักดิ์สิทธิ์ ภูมูลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 1 ส่วนการสอบสวนคดีอาญา พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครองจากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าตรวจสอบอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ย่านซอยสุขุมวิท 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. ตามที่ได้รับข้อร้องเรียนจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมคอนโดมิเนียมแห่งนี้ว่ามีนำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้าออกอาคารไม่ซ้ำหน้าตลอดเวลา เกรงว่าผู้อยู่อาศัยในอาคารจะไม่ได้รับความปลอดภัยและไม่สะดวกกับการใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ ลิฟต์ ประกอบกับชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยหรือเข้ามาในอาคารชุดแห่งนี้ ส่งเสียงดัง และสูบบุหรี่ไฟฟ้า/บุหรี่มวนส่งกลิ่นรบกวน เจ้าพนักงานจึงได้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวทำการจองห้องพักจำนวน 1 ห้อง (ห้องหมายเลข 1012) ผ่านเว็บไซต์ Agoda ในวันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นเวลา 1 คืน ในราคาประมาณห้องละ 1,000 - 1,300 บาท เมื่อสายลับเดินทางมาถึงคอนโดเป้าหมาย พบว่าบริเวณชั้นล่างของอาคาร มีสำนักงาน Agency เปิดให้บริการเช็คอินสำหรับห้องพัก มีพนักงานสัญชาติเมียนมารับเช็คอินและได้มอบคีย์การ์ดห้องพักให้ จากนั้นสายลับได้ขึ้นไปยังห้องพักหมายเลข 1012 ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 10 จากการตรวจสอบพบว่าภายในห้อง พบว่ามีลักษณะเป็นห้องนอนแบบสองเตียง มีผ้าเช็ดตัว และอุปกรณ์สำหรับใช้วันต่อวัน เหมือนการให้บริการแบบโรงแรมทั่วไป เจ้าพนักงานจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบพบว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์ห้อง 1012 เป็นนิติบุคคลแห่งหนึ่ง  เจ้าพนักงานจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เชิญตัวพนักงานผู้ให้บริการซึ่งเป็นหญิงชาวเมียนมาไปให้ข้อมูล และร้องทุกข์กล่าวโทษสำนักงาน Agency เจ้าของกรรมสิทธิ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15 และ 59 ต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

เป้าหมายที่ 4 นายนพดล เจริญวัย เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานกำกับและตรวจสอบการกระทำความผิด 2 พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครองจากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าตรวจสอบสถานที่พักรายวันซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามที่ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ Traffy Fondue ของ กทม. โดยสถานที่ดังกล่าวใช้ชื่อว่า “โรงแรมสยามา สวีท สุขุมวิท 20” เจ้าพนักงานจึงได้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวทำการจองห้องพักทำการจองห้องพักจำนวน 1 ห้องผ่านเว็บไซต์ Agoda ในวันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นเวลา 1 คืน ในราคาห้องละ 1500 บาท เมื่อสายลับเดินทางมาถึงเป้าหมาย พบว่าเป็นอาคาร 5 ชั้น ภายในพบพนักงานชาวไทย และพบผู้ใช้บริการส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ  หลังจากที่ได้ติดต่อเพื่อขอเข้าพักพนักงานได้มอบคีย์การ์ดห้อง 502 และขึ้นไปยังห้องพักหมายเลข 502 ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 5 จากการตรวจสอบภายในห้อง พบว่ามีลักษณะเป็นห้องแบบหนึ่งห้องนอน มีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์สำหรับใช้วันต่อวัน ลักษณะเหมือนการให้เข้าพักแบบโรงแรมทั่วไป  เจ้าพนักงานจึงได้แสดงตัวตรวจสอบ สอบถามผู้ดูแลสถานที่พักดังกล่าว รับว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบโรงแรม เจ้าพนักงานจึงได้ทำการจับกุมในความผิดฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15 และ 59 ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อธิบดีกรมการปกครอง  เผย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้พนักงานฝ่ายปกครองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจตราและดำเนินคดีกับผู้นำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน โดยเฉพาะกลุ่มนายทุนต่างชาติมาถือครองและนอมินี ซึ่งหากตรวจพบหรือได้รับข้อร้องเรียนให้ดำเนินคดีและแก้ไขความเดือดร้อนโดยทันที โดยให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด ต่อเนื่อง และจริงจังทั่วประเทศ รวมทั้งยังได้สั่งการให้กรมการปกครองวางมาตรการแก้ไขปัญหาการนำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน และในระยะยาวให้ดำเนินการศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับบริบทของปัญหาต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินกิจการโรงแรมที่ไม่ได้รับอนุญาตส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม และอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้เข้าพัก จึงขอประชาสัมพันธ์พร้อมสร้างความรับรู้แก่ประชาชนให้ทราบว่าการนำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย หากพบการกระทำความผิดหรือได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ ทุกแห่งทั่วประเทศเพื่อพนักงานฝ่ายปกครองจักได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยเร็วต่อไป

TAGS: #คอนโดรายวัน #กรมการปกครอง #สุขุมวิท #อโศก #มหาดไทย