เคาะแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท เฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน พ.ค.นี้ ยันวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่

เคาะแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท เฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน พ.ค.นี้ ยันวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่
บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล  10,000 บาท เฟส 3 กลุ่มแรกอายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน พ.ค.นี้   รองรับเปิดเทอม ยันจ่ายกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่ 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1ครั้งที่ 1/2568 ทำเนียบรัฐบาล   เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3  เน้นกลุ่มผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ  กลุ่มอายุ 16-20 ปี  จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท  เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ ใช้เงินผ่านดิจิทัลได้คล่อง คาดเริ่มกลาง พ.ค.หรือต้น มิ.ย.68

 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า วันนี้การประชุมมีอยู่ 3 เรื่อง เรื่องที่ 1 คือ การขับเคลื่อนหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดร้อยละ 3 ให้ได้ 2. เรื่องแจกเงิน​ ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3​ และ​ 3.​การลงทะเบียนผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน​

สำหรับ​ ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3​ นายพิชัย​ กล่าวว่า​ ตนอยากให้เรียกว่าเป็น​ เฟสแรก​ เพราะเราแจกเงินผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งแรก​ ซึ่งมีข้อดี​ ที่สามารถควบคุมการใช้เงินได้ กำหนดกรอบการใช้จ่ายได้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทุกประการ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ​ ได้เคาะแล้ว​ จะแจกให้สำหรับประชาชนที่มีอายุ 16 -​ 20 ปี โดยเป็นการเห็นชอบในหลักการ​ คาดว่า​ การแจกจะอยู่ในช่วงปลายไตมาส 2 ควบ​ ไตรมาส 3 ซึ่งเราจะรอดูความเรียบร้อยและพิจารณาถึงความคุ้มค่าในอนาคตและปัจจุบันก่อน รวมถึงประโยชน์ที่ได้ในการวางพื้นฐาน ต้องดูให้ละเอียดถี่ถ้วน​ และยังไม่สามารถคำตอบได้ว่าจะเข้า​ ครม.​ เมื่อไหร่​

นายพิชัย​ กล่าวต่อว่า​ นายกฯกังวลเรื่อง​ ความผิดพลาดในระบบ จึงได้ตั้งอนุกรรมการ เพื่อมาดูในเรื่องนี้โดยเฉพาะ​ เชื่อว่าความผิดพลาดในอดีตจากการจ่ายเงินหมื่น จะทำให้ลดลงเนื่องจากมีการจ่ายเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายกรัฐมนตรี​ ก็กำชับว่าให้ดูเรื่องระบบดังกล่าวด้วย

ขณะที่นายจุลพันธ์​ อมรวิวัฒน์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวขยายความถึงการลงทะเบียนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน​ ว่า​ สิ่งที่เราทำคือการลงทะเบียนประชาชน​ ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทั้งหมด​ ไม่ใช่แค่เรื่องการเติมเงิน 10,000 บาท​ ซึ่งข้อมูลที่เราได้มา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้ต่อไปในอนาคต​ อย่างตรงจุดและตรงเป้า​ จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนมาลงทะเบียนกันเยอะๆ​ เพราะกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญสำหรับการเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัล ที่นายกรัฐมนตรีที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มตัว​ และดูแลกลุ่มประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึง

สำหรับการลงทะเบียน จะลงผ่านธนาคารของรัฐ​ 4 ธนาคาร​ ประกอบด้วย​ กรุงไทย ออมสิน ทหารไทย และธนาคารอิสลาม​ ร่วมกับไปรษณีย์ และ ธปท. ส่วนกรอบเวลาให้ลงทะเบียนจะแจ้งอีกครั้ง​ ตอนนี้แอปพลิเคชัน​ ในการลงทะเบียนมีความพร้อมหมดแล้ว

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมเรื่องการลงทะเบียน​ กลุ่มไม่มีสมาร์ท​โฟน​ ว่า​ ประชาชนสามารถวอล์คอินไปยังหน่วยงานต่างๆเหล่านี้ และไม่สามารถแอบอ้างได้ เพราะข้อมูลทั้งหมดที่ลงทะเบียนจะถูกนำไปตรวจสอบ ซึ่งจะประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผ่าน​ กสทช.

นายเผ่าภูมิ​ กล่าวต่อว่า​ จำนวนผู้ที่ได้รับในเฟสนี้ 16 - 20 ปี มีจำนวน 2.7 ล้านคน และ การที่เลือกแจกประชาชนกลุ่มนี้​ ไม่ใช่ข้อจำกัดของงบประมาณหรือรัฐบาลจะนำเงินลงไปในกลุ่มไหน แต่เลือกเพราะพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่เหมาะสม จำนวนเม็ดเงินที่ลงไปสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ​

"รัฐบาลได้กันเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ 150,000 ล้านบาท เรามีกระสุนไว้เพียงพอมีไว้เยอะรัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า พร้อมยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม รัฐบาลจึงเลือกคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรก​" เผ่าภูมิ​ กล่าว

เมื่อถามว่า​ 150,000 ล้านบาท หากใช้ไม่ทันปี 2568 สามารถที่จะใช้ในปีงบประมาณถัดไปได้หรือไม่​ นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า​ โครงการต้องเดินหน้าก่อนถึงใช้งบผูกพันได้ ถ้าไม่ใช้ก็ต้องพับไป แต่ยืนยันว่าเม็ดเงินนี้เป็นเม็ดเงินที่สำคัญ​ เราต้องใช้ให้คุ้มค่า ทุกบาททุกสตางค์ ​ ขอให้มีความเชื่อมั่นว่า ด้วยกลไกในการขับเคลื่อน การใช้จ่ายของภาครัฐก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะฉะนั้นเงิน 150,000 ล้านบาท รัฐบาลได้วางแผนไว้สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ​

เมื่อถามถึงเงื่อนไขการใช้เงิน ดิจิทัลวอลเล็ต​ มีการปรับเปลี่ยน​ไปจากเดิมหรือไม่​ นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตครั้งนี้​ ​เป็นการตั้งโครงการขึ้นมาใหม่ทั้งหมด​ โดยการดึงข้อมูลมาจากแอปพลิเคชัน​ทางรัฐ​ ส่วนรายละเอียด การใช้เงินค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม​ แต่เรื่องของสินค้า​ เราไม่กำหนดห้าม​ ​เราไปกำกับดูแลการลงทะเบียนของร้านค้าแทน​ จะมีข้อห้ามว่าร้านค้าที่ไม่ให้เข้าร่วมจะเป็นลักษณะใด เช่น​ ร้านทอง​ ร้าน​ที่ขายเหล้าโดยเฉพาะ แต่ไม่ได้ห้ามตรวจสินค้า​ ยกตัวอย่าง​ หากนำไปใช้ในร้านโชห่วย ที่มีสินค้าหลากหลาย​ ก็สามารถซื้อได้ทุกประเภท​ พร้อมกับมีการปรับเปลี่ยน โดยการทำให้ง่ายขึ้น​ คือ​ ถอดการขึ้นเงินสดของร้านค้า​ โดยให้ร้านค้าทุกประเภท​ สามารถขึ้นเงินได้​ โดยไม่จำกัด​เฉพาะ​กลุ่มที่อยู่ในการเสียภาษี​ เพื่อให้เกิดการสะดวกแก่ร้านค้า และเป็นการเชิญชวนให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการเรามากขึ้น​

เมื่อ​ถามถึงพื้นที่ในการใช้เงินดิจิทัล นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า​ ยังเป็นพื้นที่ภายในอำเภออยู่​ สามารถจ่ายค่าเทอมได้ จ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้​ และเราหวังผลการกระตุ้นเศรษฐกิจมาก​ เพราะจากการกระตุ้นเศรษฐกิจไป 2 รอบ​ มีผลสำรวจออกมา​จากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง​ มีผลที่ดีทั้ง 2 รอบ​ มีการหมุนเวียนและกระจายตัวที่ดีมาก และรอบนี้เราเชื่อว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพราะเราใช้กลไกของดิจิตอลวอลเล็ต​ จะสามารถจำกัดตัวเม็ดเงินไปในจุดที่เราต้องการได้มากขึ้น​ และเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งนี้เรายังมีกลไกในการเติมเงิน อายุ 16-20 ปี เพื่อไปใช้เรื่องปัญหาค่าครองชีพของเขา​ และเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิตอลต่อไปในอนาคต​

เมื่อถามว่า​ คนวัยทำงานโวย​ ว่า​ ทำไมไม่แจกก่อน​ นาย​จุลพันธ์​ กล่าวว่า​ เป็นเรื่องของการบริหารจัดการเม็ดเงิน เพื่อลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด

เมื่อถามว่ากลุ่มอายุ 16 -​ 20 ปีอาจจะมี ความต้องการใช้เงินไม่เท่ากับกลุ่มวัยทำงาน​ นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า​ ใกล้เปิดเทอมแล้วนะ​ เขาก็มีความจำเป็น​

เมื่อถามว่า​ การแจกเงินในรอบนี้จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจเหมือน 2 รอบแรกหรือไม่​ นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า​ จากการวิเคราะห์ภาวะการทางเศรษฐกิจ และโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ จังหวะนี้เป็นจังหวะที่มีความเหมาะสม

เมื่อถามว่า​ กลุ่มที่มีอายุ 20 -​ 59 ปียังมีสิทธิรับเงิน 10,000 บาทใช่หรือไม่​ นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า แน่นอน อย่างที่เรียนไปเรามีเม็ดเงินรอไว้อยู่ 150,000 ล้านบาท​ วันนี้เราทำครั้งนี้​ไป​ กรอบระยะเวลาในการใช้เงินก็เหลือไตรมาสเดียว​ ดังนั้น​ กลุ่มถัดไป​ ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการแจก ​

เมื่อถามว่าเฟสถัดไปอาจจะมีการแตกเป็นกลุ่มอีก นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า​ ต้องดูจังหวัดและความเหมาะสมอีกครั้ง​ ต้องมีการประชุมกันก่อน

เมื่อถามว่าเฟสถัดไป​ อาจจะไม่ใช่การแจกเงินหมื่นใช่หรือไม่​ นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า​ การกระตุ้นเศรษฐกิจ​ ทำได้หลายอย่าง​ อย่างที่บอกว่าวาระแรกของการประชุมคือ 46 โครงการ​ ที่เราได้ทำมาแล้วทำอยู่​ และกำลังจะทำต่อไป เป็นโครงการที่ใช้เม็ดเงินและนโยบายโครงการ​ กลไกของรัฐ​ ทั้งหมดต้องประกอบเข้าด้วยกัน ในส่วนของเม็ดเงินที่เราเตรียมไว้ เราเตรียมไว้สำหรับทำโครงการเงินหมื่นในเฟสถัดไป​ และยืนยันว่า​ รัฐบาลจะมีความเชื่อมั่นในการแจกเงินเฟสถัดไป เพราะเม็ดเงินในระบบมีอยู่อย่างเพียงพอ การเติมเงินในครั้งก่อนๆ ตัวเลขทางเศรษฐกิจได้ชี้แล้วว่า​ มันมีการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ​ เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนนโยบายที่เราได้ว่างเอาไว้​ และค่าแรงต่อรัฐสภา เราต้องขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ สุดท้ายเงินหมื่นต้องถึงมือประชาชนทุกคน

 

TAGS: #ดิจิทัลวอลเล็ต #เงินดิจิทัล #เงินหมื่น #เฟส3