สวนดุสิตโพล เผย ประชาชน ชี้ ครองชีพสูง ไม่กล้าใช้จ่าย มอง มาตรการรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ แจกเงินหมื่นไม่ช่วย ดึง "ทักษิณ" มาช่วยก็ไม่ดีขึ้น
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับภาวะเศรษฐกิจ ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,141 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 18-21 ก.พ. 2568
โดยผลการสำรวจสรุปได้ ดังนี้
-สภาพเศรษฐกิจไทย ณ วันนี้ มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างไรบ้าง
อันดับ 1 ส่งผลกระทบ ทำให้ใช้จ่ายเดือนชนเดือน ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย 51.01%
อันดับ 2 กระทบหนัก มีหนี้สินเพิ่มขึ้น ทั้งหนี้บัตรเครดิตและเงินกู้ต่างๆ 42.68%
อันดับ 3 ไม่ส่งผลกระทบ เพราะมีรายได้ที่มั่นคงและบริหารการเงินได้ดี 6.31%
-เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าปัจจัยใดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด
อันดับ 1 ค่าครองชีพสูง คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อในประเทศไม่ขยายตัว 82.94%
อันดับ 2 ค่าเงินผันผวน ราคาทองคำผันผวน 62.07%
อันดับ 3 ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน 51.11%
-เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่ามาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
อันดับ 1 ไม่มีประสิทธิภาพ 69.50%
อันดับ 2 มีประสิทธิภาพ 25.15%
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 5.35%
-เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าใคร/หน่วยงานใดควรเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเร่งด่วน
อันดับ 1 นายกรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาล 76.58%
อันดับ 2 กระทรวงพาณิชย์ 52.50%
อันดับ 3 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) 47.60%
-เมื่อถามว่า หากอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนคิดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
อันดับ 1 เศรษฐกิจน่าจะเหมือนเดิม 41.63%
อันดับ 2 เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น 34.18%
อันดับ 3 เศรษฐกิจอาจจะแย่ลง 24.19%
-เมื่อถามว่าประชาชนคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2568 นี้จะดีขึ้นหรือไม่
อันดับ 1 เศรษฐกิจน่าจะเหมือนเดิม 46.01%
อันดับ 2 เศรษฐกิจอาจจะแย่ลง 39.44%
อันดับ 3 เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น 14.55%
น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนความไม่เชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ท่ามกลางราคาสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เป็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า แม้รัฐบาลพยายามเร่งอัดฉีดเงินหมื่นเข้าไปกระตุ้น แต่ก็ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามเป้า นี่คือความท้าทายของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างชื่อจากความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ วันนี้ต้องเร่งคืนความเชื่อมั่นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งภายในและปัจจับเสี่ยงภายนอกประเทศ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกอนงค์ ศรีสำอางค์ ประธานหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต อธิบายว่า ประชาชนมองว่ามาตรการของรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ควรเร่งปรับปรุงนโยบายเศรษฐกิจ และคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ถูกคาดหวังให้ช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน นอกจากนี้การที่ประชาชนคาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะคงที่หรือแย่ลง แสดงถึงความไม่เชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจในระยะสั้น แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน 10,000 บาท ออกมาก็ตาม รัฐบาลควรปรับมาตรการเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพและช่วยลดภาระหนี้สินของประชาชน กระตุ้นการลงทุนโดยการลดต้นทุนการผลิตและสร้างความมั่นคงในระบบการเงิน ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การเพิ่มความโปร่งใสและมีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับประชาชนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจอย่างจริงจังและจริงใจ