"อุ๊งอิ๊งค์"ยกทีมเต็มคณะเยือนจีนหารือรอบด้านเซ็นเอ็มโอยูไทย-จีน 14  ฉบับ

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ  หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก็งค์คอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง- แลนด์บริดจ์ 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะอาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์  เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 5 – 8 กุมภาพันธ์นี้ 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ​11.30 น. และถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง17.00น.​ ตามเวลาท้องถิ่น​ ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย​1 ชั่วโมง​ โดยมี รมช.ต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย​ รวมทั้งเอกอัครราชทูต​ ณ​ กรุงปักกิ่ง ให้การต้อนรับ​

ทั้งนี้มีเด็กชายชาวจีนมอบช่อดอกไม้แด่นายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินผ่านแถวทหารเกียรติยศ เพื่อขึ้นรถยนต์ไปเรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ

นายกรัฐมนตรี​ ให้สัมภาษ​ณ์ถึงการไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ว่า จะได้พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญของจีนทั้งนายจ้าว เล่อจี้  ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง  นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตนเคยพบกับนายกรัฐมนตรีของจีน2-3ครั้งแล้ว มาครั้งนี้ ก็ถือว่ามีความคุ้นเคย ประกอบกับไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูต มายาวนาน 50 ปี จึงมีเรื่องที่จะประสานทำงานร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งซอฟต์พาวเวอร์ ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมของอนาคตในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ดาต้าเซ็นเตอร์ และ พลังงานสีเขียว การใช้รถอีวี การตั้งโรงงาน และการเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกมาเป็นดิจิทัล 

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี​ ระบุว่ามีเรื่องของปัญหาความปลอดภัย และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยออกคลิปเป็น เอไอ ภาษาจีน เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว ในไทย และบอกว่าเราพร้อมดูแล นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งจีน การเดิยทางเบือนจีนครั้งนี้ก็จะไปตอกย้ำ ความปลอดภัย ในประเทศไทยว่าพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี และจะมีการจัดงานเทศกาลอื่น ๆ อีกมากมายทั้งปี  ส่วนกรณีที่มีข่าวลือต่างๆ ในช่องทางโซเชียลมีเดีย ก็ต้องไปขอความร่วมมือกับทางจีนด้วยว่า เมื่อพบเห็นขอให้ช่วยเอาลงให้ด้วย ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง  เพราะในประเทศไทยใช้คนละแพลตฟอร์มกับจีน เวลามีข่าวลือเหล่านี้ขึ้นมาก็ไม่ทราบข่าวสารพวกนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากทางจีนด้วย

นายกรัฐมนตรี​ ยังกล่าวถึงเรื่องที่เป็นปัญหา ทั้งไทยและจีน คือปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องการความร่วมมือซึ่งกันและกัน และแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน ร่วมกับ อาเซียน และอาจจะมีการแนะนำเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน ในการจัดการกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ ต่างๆ และในฐานะที่ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับจีน  ก็จะมีการพัฒนาทักษะ และศักยภาพ ของคนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่จีนมาจัดตั้ง โดยพัฒนาคนให้มีศักยภาพ พร้อมที่จะทำงานได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตต่าง ๆ ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนกัน รวมไปถึง การหาความรู้เพิ่มเกี่ยวกับประเทศจีน เกี่ยวกับการศึกษาว่าพัฒนาคนของจีนอย่างไร ก็จะนำมาปรับใช้กับคนไทยด้วย

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวอีกว่าจะมีการลงนามความตกลง ระหว่างไทย-จีน อย่างน้อย 14  ฉบับ  จะสานต่อโครงการถไฟความเร็วสูงระยะที่หนึ่ง และสอง เชื่อมโยงไทย ลาวและจีน รวมถึงสานต่อ เรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ ที่นายศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีได้เคยทำไว้​ ส่วนเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซอฟต์พาวเวอร์ ได้มีโอกาส พูดคุยกับ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการสื่อสารระหว่างคนไทยกับจีนโดยผ่านซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้มีกิจกรรมร่วมกัน และร่วมเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้​ จะมีโอกาาพบกับสมาคมธุรกิจไทยจีนและพบภาคเอกชน2-3รายด้วย

นายกรัฐมนตรี​ ยังกล่าวอีกว่า​ จะพูดคุยถึงขั้นตอนในการดำเนินการรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีนมายังประเทศไทย

นายกรัฐมนตรียังระบุว่าจะเดินทางไป เมืองฮาร์บิน ซึ่งมีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่9 ซึ่งมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขันด้วย จึงจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนที่บ้านพักนักกีฬาไทยและให้กำลังใจด้วยตัวเอง
 

TAGS: #นายกฯแพทองธาร #เยือนจีน #สี #จิ้นผิง