"ชัชชาติ" จับมือ "บิ๊กเต่า" ซ้อนแผนรวบ นายช่างโยธาพระโขนง รีดไถเงินผู้รับเหมาแลกออกใบอนุญาตก่อสร้างห้างคอมมูนิตี้มอลล์กลางเมือง แถลงข่าวบ่ายนี้
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. ซ้อนแผนบุกเข้าจับกุมตัว นายปัญญา นาคแดง อายุ 31 ปี นายช่างโยธาปฏิบัติงาน สำนักงานเขตพระโขนง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ,เป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ฯ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบ” ขณะกำลังเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ โดยจับกุมตัวได้ภายในห้องทำงานสำนักงานเขตพระโขนง พร้อมตรวจยึดเงินสดของกลางจำนวน 2 แสนบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นผู้รับเหมาเขียนแบบก่อสร้างห้างคอมมูนิตี้มอลล์แห่งหนึ่งในพื้นที่เขตพระโขนง ว่า ถูก นายปัญญา ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายช่างโยธา เรียกเก็บเงินค่าออกใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารโครงการดังกล่าวจำนวน 420,000 บาท ด้วยความกลัวว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินตามข้อเรียกร้องจะถูกกลั่นแกล้งจนกระทบต่อการดำเนินการก่อสร้างโครงการ จึงยอมจ่ายเงินให้ก่อนจำนวน 220,000 บาท จากนั้นจึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับทางกรุงเทพมหานคร เพราะมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ก่อนที่ทาง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะสั่งการให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อกวาดล้างเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
จากนั้นไม่นาน นายปัญญา ก็ได้ติดต่อมายังผู้เสียหายอีกครั้ง เพื่อทวงถามเงินส่วนที่เหลืออีก 2 แสนบาท เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดแน่ชัด ทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินส่วนที่เหลือไปส่งมอบ ก่อนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อเห็นผู้ต้องหารับมอบเงินจากผู้เสียหายแล้ว จึงตัดสินใจนำกำลังบุกเข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับเงินสดของกลางดังกล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับคดีดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาขยายผลตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในห้องทำงาน ก่อนเตรียมคุมตัวมาสอบปากคำยังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดยจะมีการจัดแถลงข่าวสรุปภาพรวมปฏิบัติการดังกล่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันนี้(23 ม.ค.)