“นายกฯ“ เปิด ซอฟพาวเวอร์อาหาร ดันเชฟไทย-อาหารไทย แพร่วัฒนธรรม อวดต่างชาติ หวัง เป็นศูนย์กลางอาหารโลก เชื่อ สร้างงานและอาชีพคนไทย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Soft Power Food” กับการพัฒนาประเทศไทย โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นพ.สุรพงษ์ สืบวงลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายเอกนัฏ กล่าวว่า รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของซอฟต์พาวเวอร์ในฐานะเครื่องมือที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านนโยบายหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟพาวเวอร์ One Family One Soft Power : OFOS ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ 14 สาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทย เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทรงพลังที่สุด เพราะเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ กระทรวงอุตสาหกรรมผลักดันโครงการดังกล่าวและมีเป้าหมายสร้างงานและอาชีพกว่า 75,000 ตำแหน่ง เพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ กว่า 3,500 ล้านบาท ภายในงานยังได้จัดให้มีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กับ หน่วยงานภาคีเครือข่ายอีก 7หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 2.คณะกรรมการอาชีวศึกษา 3.กรมอนามัย 4.กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 5.สถาบันคุณสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) 6.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และ 7.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เพื่อผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการสร้างมาตรฐานคุณภาพอาหาร การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสนับสนุนการส่งออกสินค้าอาหารไทย
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย อาหารไทยเป็นที่รู้จักดีทั่วโลกเราจึงต้องการจะยกระดับอุตสาหกรรมนี้ให้มีหลักเกณฑ์สามารถให้คนทุกพื้นที่พัฒนาตัวเองได้อย่างเป็นระเบียบ จากโครงการ 1 หมู่บ้าน1เชฟอาหารไทย สามารถพัฒนาศักยภาพของประชาชนที่มีความสามารถในด้านการทำอาหารให้มีโอกาสเรียนรู้เป็นเชฟมืออาชีพ เมื่อเข้าหลักสูตรในโครงการนี้จบแล้วจะเป็นเชฟมืออาชีพสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ และยกระดับอาชีพของตัวเองไปอีกขั้นหนึ่ง จึงหวังอย่างให้เชฟทุกคนที่เข้าอบรมพร้อมที่จะไปเผยแพร่รสชาติของอาหารไทยในแบบที่เป็นต้นตำรับจริงๆ อาหารไทยมีหลายแบบที่อาจเคยชิมกันมาหมดแล้ว แต่บางทีเราไม่ทราบว่าอะไรเรียกว่าอะไร และเชฟที่ผ่านหลักสูตรจัดรูปแบบอาหารไทยไว้มาก ทั้งอาหารโบราณ อาหารชาววัง อาหารประจำถิ่นพื้นที่ แต่ละภาคมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไปเชื่อว่าคนไทยมีฝีมืออย่างมาก
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หลายคนทำอาหารที่บ้านเองโดยอาศัยองค์ความรู้ที่สืบทอดต่อกันมาจากครอบครัวของตัวเอง พอได้เข้าหลักสูตรจะรู้วิธีที่เป็นหลักมากขึ้น ได้รับการรับรองผ่านขั้นตอนผ่านความรู้ที่เป็นระบบช่วยส่งเสริมให้หางานได้ง่ายขึ้น เมื่อเราผลิตเชฟอาหารไทย จะสนับสนุนให้ไปทำงาน ในต่างประเทศ หรือเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้ นอกจากเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนไทยแล้วยังเป็นการส่งทูตวัฒนธรรมของเราเองไปยังประเทศต่างๆ
ตนเชื่อว่าหลายประเทศบอกว่าอาหารไทย คือ อาหารโปรดของคนต่างชาติหลายคน เมื่อมีหลักสูตรไปเผยแพร่วัฒนธรรมไทยอย่างถูกต้อง ก็เหมือนเป็นตัวแทนของคนไทย ที่ส่งวัฒนธรรมไป เช่น การจัดสำรับ รูปแบบ อาหารสูตรการปรุงการทานแบบคนไทยทำอย่างไรเป็นอย่างไร ฉะนั้นการที่เราทำเชฟอาหารไทยที่มีคุณภาพส่งไปเมืองนอก เพื่อเผยแพร่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ทั้งอาหาร และวัฒนธรรม
นอกจากนี้การที่เราเริ่มทำเชฟอาหารไทยสิ่งที่ต้องทำต่อไปนั่นคือการส่งออกของอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ พืชผลทางการเกษตร จะต้องมีการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีด้วยไม่ว่าจะเป็นการแช่แข็ง กับการถนอมอาหาร เพื่อให้วัตถุดิบเหล่านั้นหรือเครื่องปรุงต่างๆของไทยมีอายุอยู่ได้นานขึ้นโดยที่รสชาติเหมือนเดิมในวันแรกที่ทานในเมืองไทย ถ้าเราพัฒนาตรงนี้ทุกเมนูทุกสูตร จะสามารถส่งออกได้คนต่างชาติจะได้ลิ้มลองลิ้มรสอาหารไทยจริงๆจากประเทศไทย ตรงนี้จะพัฒนาทั้งคนทั้งอุตสาหกรรม พัฒนาเกษตรกรไปถึงภาคอุตสาหกรรม ที่จะต้องทำงานอย่างต่อเนื่องแบบบูรณาการเพื่อส่งออกคุณภาพอาหารและเชฟที่ดีให้ต่างชาติได้รับรู้ และให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือเป็นครัวของโลก ตนเองไปประเทศไหนก็พูดเรื่องนี้ได้อย่างเต็มปากว่าประเทศไทย พร้อมที่จะเป็นความมั่นคงทางอาหารให้ทั่วโลก บางประเทศที่มีความไม่สงบในประเทศหรือการเกษตรไม่เพียงพอต่อประเทศนั้น เราสามารถเป็นที่เก็บอาหาร ของทุกประเทศได้ถ้านวัตกรรมของไปถึงสามารถถนอมอาหารได้นานตรงนี้จะช่วยเกษตรกรคนไทยและไปถึงผลิตภัณฑ์ไปถึงต่างชาติ ได้อาหารจากต้นตอของเราจริงคุณภาพเหมือนเดิมที่สำคัญเราเองพร้อมส่งออกทุกวันทั้งปีนี่คือข้อที่ประเทศไทยเราได้เปรียบฉะนั้นการทำทุกอย่างเหล่านี้เป็นการส่งเสริมอย่างต่อเนื่องทั้งระบบตรงนี้คือยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลมองเห็นว่าเราจะผลักดันในเรื่องแบบนี้ต่อเนื่องอย่างไร
“Soft Power ในเรื่องอาหาร เป็นสิ่งที่เหมือนกับการพูดแล้วทุกคนรู้จักได้ง่าย แต่จริงๆดีเทลในการพัฒนามีอีกมากและอุตสาหกรรมอาหารสามารถเติบโตอย่างเต็มรูปแบบได้อีกมาก รัฐบาลจึวสนับสนุนเต็มที่ และต้องขอบคุณกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวง การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันพัฒนาคุณวุฒิวิชาชีพ และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงรวมถึงหน่วยงานของภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ที่ร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมของอาหารไปด้วยกัน ผลักดันอุตสาหกรรมอาหารไปให้ไกลกว่านี้ ให้ดังทั่วโลกให้เขารู้จักคนไทย อาหารไทย เรามีดีอย่างไรบ้าง“
จากนั้นนายกฯเดินชมกิจกรรมในงานโซน Food Station ที่นำเสนอ 16 เมนูพิเศษ โดยเชฟชื่อดัง โซนศูนย์อัจฉริยะด้านอาหาร นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบแปรรูปจากชุมชน แสดงนวัตกรรมและศักยภาพของอาหารท้องถิ่น โซนร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นอาหารไทย เสิร์ฟจริง ชิมจริง กับ 4 เมนูเด็ด จาก 4 ภาค และโซนนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยสู่ตลาดโลก โดยแวะชิมน้ำกระเจี๊ยบผสมมะนาว พร้อมถามว่าผสมน้ำตาล หรือไม่เพราะรสไม่หวานแหลมเกินไปและชมรสชาติอร่อย