สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยโทษแก่กบฏ รศ 130(พ.ศ.2455)

สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยโทษแก่กบฏ รศ 130(พ.ศ.2455)
โดย...สมาน สุดโต

การที่นายทหารจำนวนหนึ่งคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองเพราะไม่พอใจการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช และการบริหารราชการของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอย่หัว เช่นการตั้งกองเสือป่า ที่ทหารกลุ่มนี้เห็นว่าตั้งมาแข่งกับทหาร

แต่ไม่ทันได้ลงมือก่อการ ก็ถูกจับเสียก่อน เนื่องจากนายทหารคนหนึ่ง ชื่อร้อยเอกยุทธ คงอยู่ ที่ร่วมคณะ นำความลับและชื่อผู้ก่อการไปบอกผู้บังคับบัญชาระดับเหนือ คณะปฏิวัติจึงถูกจับทั้งยวง

เมื่อถูกจับข้อหากบฏ ศาลทหารพิพากษาดังนี้

1 ให้ประหารชีวิต 3 นาย

2 จำคุกตลอดชีวิต 20 นาย

3 จำคุก 20 ปี 32 นาย

4 จำคุก 15 ปี 6 นาย

5 จำคุก 12 ปี 30 นาย

แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ และทรงเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว นายทหารและผู้ร่วมก่อการทั้งหมดจึงได้รับพระราชทานอภัยโทษลดหลั่นกันไป

โทษประหาร เหลือจำคุกตลอดชีวิต

โทษจำคุกคลอดชีวิต เหลือจำคุก 20 ปี

และผู้ต้องโทษอื่นอีก 68 คน ให้รอการลงอาญา

พระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้า ทรงมีพระราชดำรัสว่าข้อสำคัญที่คิดจะทำร้าย ต่อเรานั้น เรามิได้มีจิต คิดพยาบาท มาดร้ายต่อพวกนี้ 

ต่อมาบุคคลที่ต้องโทษเหล่านั้น ได้รับอภัยโทษ ให้เป็นอิสระออกจากที่คุมขัง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ 2467 หลังจากต้องโทษอยู่ประมาณ 12 ปี

ที่กล่าวนี้เป็นข้อความ ตอนหนึ่ง  

จากคำบรรยายของศาสตราจารย์เกียรติคุณ ท่านผู้หญิงศรีนาถ สุริยะ บรรยาย เรื่องเมื่อคุณพ่อของข้าพเจ้า (พระนาถปัญญา) เป็นเสือป่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2536 ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์

ก่อนจบการบรรยาย ศ.ท่านผู้หญิงศรีนาถ กล่าวว่า ขอลงท้ายด้วยข้อคิด ของคณะปฏิวัติ เมื่อได้รับพระราชทานอภัยโทษ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ 2467 ดังนี้ " ต่อไปนี้เราใคร่จะสรุปน้ำพระทัย ของพระมหาธีรราชเจ้า ที่มีต่อพวกเราโดยตรงและมีต่อประชาชนของพระองค์ หลังจากการปฏิวัติของคณะ รศ 130 ดังนี้ 

พระองค์พระราชทานชีวิตของพวกเราไว้จากคำพิพากษาศาลทหาร

โดยเราไม่แน่ใจว่า หากไม่ใช่พระประมุของค์นี้แล้ว พวกเราจะพ้นจากการประหารชีวิตหรือไม่

"การพระราชทานอภัยโทษ เท่ากับพระราชทานชีวิตให้เกิดใหม่ในเวลารวดเร็วยิ่งขึ้น จึงขอกล่าวว่า เป็นยอดน้ำพระทัย ที่พวกเรา ทูนไว้ เหนือหัว ทุกทิวา ราตรีกาล"


หลังจากเสร็จสิ้นคดีกบฏ รศ.130  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงอนุญาตให้รัฐบาลเก็บภาษีจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งแต่ก่อนไม่จำเป็นต้องเสียภาษีแต่อย่างใด

ใน ขณะที่การฝึก เสือป่า ก็ลดลง

พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระประสูติการ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ 2424 สวรรคต 26 พฤศจิกายน พ.ศ 2468 สิริรวม พระชนมพรรษา 44 พรรษา ทรงครองราชสมบัติ เป็นเวลา 15 ปี

นับตั้งแต่ วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ 2453 ต่อจาก สมเด็จพระบรมราชชนกนาถ  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ตลอดพระชนมชีพ แม้จะทรงพระประชวร ต่อเนื่องจากการให้แพทย์ผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบที่ประเทศอังกฤษขณะที่ทรงเป็นนักศึกษานั้น ก็มิได้ทำให้พระองค์ท้อถอย กลับทรงมีพระขันติธรรมและทรงอิทธิบาท 4 จึงนำประเทศสยามเคียงบ่าเคียงใหล่กับประเทศในยุโรปเช่นทรงให้ส่งทหารร่วมทำสงครามโลกครั้ง ที่ 1 กับฝ่ายพันธมิตร (ฝรั่งเศสและพันธมิตร)และมีชัยเหนือศัตรู (เยอรมนี กับบางประเทศในยุโรป)
ข่าวชัยชนะถึงสยามวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461

นอกจากนั้นยังทรงพัฒนาประเทศด้านต่างๆ ได้แก่การศึกษา วัฒนธรรม ประเพณี ปลุกให้คนไทยรู้รักแผ่นดิน โดยทรงนิพนธ์เพลงปลุกใจ สร้างธงไตรรงค์ประจำสยามประเทศ ให้ใช้ พ.ศ. (พระพุทธศักราช) จึงเป็นประเทศเดียวในโลกที่ใช้ พ.ศ.ถึงกับผู้นำประเทศเช่นญี่ปุ่นชื่นชม และทรงนิพนธ์วรรณคดี และบทความ ในนามปากกาต่างๆ จำนวนมาก 

ที่สำคัญทรงส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยสร้างดุสิตธานี เมืองประชาธิปไตยจำลองที่วังพญาไท เพื่อให้ข้าราชบริพารคุ้นเคย และพระราชกรณียกิจอีกนานัปการในฐานะนักปราชญ์ จึงได้รับพระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า"

ต่อมา"องค์การยูเนสโก ทรงยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลก เมื่อ พ.ศ.2524 ว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมในฐานะทรงเป็นนักปราชญ์ นักประพันธ์ กวี และนักแต่งบทละครเป็นจำนวนมาก"

ดังนั้น ขอเชิญชวน ผู้จงรักภักดี ได้น้อมรำลึกถึง พระเกียรติคุณและคุณูปการอันยิ่งใหญ่เหลือจะพรรณา ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเสด็จสวรรคต ปีที่ 99 วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ 2567 โดยพร้อมเพรียงกัน

TAGS: #กบฏรศ130 #รัชกาลที่6 #สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว #พระราชทานอภัยโทษ