โดย...สมาน สุดโต
กรณีพระร่างกายพิการ เดินด้วยไม้ค้ำยัน ท่าทางยักแย้ ยักยัน ออกบิณฑบาตร ย่านพญาไท สร้างความรู้สึกแก่ผู้พบเห็นต่างๆ นานา ทึ่รู้สึกสงสารก็มี ที่รู้สึกสมเพชเวทนา ก็มาก ท่ามกลางคำถามว่าพิการขนาดนี้ยังบวชได้หรือ?
ผมจึงเปิดหนังสือคู่มือพระอุปัชฌาย์ดู ว่ามีบุคคลเช่นไรบ้าง ที่ห้ามอุปัชฌาย์บวชให้
ในหนังสือคู่มืออุปัชฌาย์ ท่านกล่าวไว้ 2 ปรเด็น
1 การสอบถามอันตรายิกธรรม ก่อนให้บรรพชา มี 13 ข้อ เป็นข้อห้าม 8 ข้อ กุลบุตรมีหรือเป็นห้ามบวช เพราะเป็นอันตรายต่อการบวช คือเป็นโรค 5 อย่างเช่นโรคเรื้อน โรคฝีขึ้นทั่วตัว โรคมองคร่อ คือมีเสมหะแห้งในกัานหลอดลม โรคลมบ้าหมูเป็นต้น
นอกจากนั้น พระคู่สวดยังถามว่าเป็นมนุษย์หรือไม่ เป็นชายหรือไม่ เป็นไทแก่ตัว คือไม่เป็นข้าทาสแล้วใช่ไหม
ไม่เป็นข้าราชการ (ถ้าเป็นลาบวชได้) พ่อแม่อนุญาตไหม อายุครบ 20 ปีหรือยัง และมีบาตร จีวรพรัอมละหรือ
สุดท้ายให้บอกชื่อตน และอุปัชฌาย์
ในจำนวนนี้การเป็นโรคถ้ารักษหาย ก็บวชได้ แต่ถ้าไม่เป็นมนุษย์ (คือนาคแปลงกายเป็นมนุษย์) และอายุ ไม่ครบ 20 ปี และเพศสภาพเป็นอย่างอื่น เป็นทั้งขายและหญิง หรือกระเทย ถึงบวชไปก็ไม่เป็นพระภิกษุ
2 เป็นบุคคลตัองห้าม หากเข้ามาบวชทำให้สังคมสงฆ์มัวหมอง หรือถูกดูหมิ่น ท่านเรียกว่า อภัพบุคคล หรือคนอาภัพ พระอุปัชฌาย์ต้องสอบสวนก่อนรับมอบตัวมาเป็นผู้ขอบวช(เป็นนาค)
ยิ่งกว่านั้นยังมีกฏมหาเถรสมาคม ให้สอบประวัติอาชญากรรมจากสถานีตำรวจ หากมีคดีอาญาก็ห้ามบวช ทั้งนี้จะบวชได้ต้องมีผู้เชื่อถือได้รับรอง
พระอุปัชฌาย์ต้องรู้ ว่าคนห้ามบวชเด็ดขาด มี 3 จำพวก
1 คนมีเพศบกพร่อง
2 คนประพฤติผิดธรรมวินัย
3 คนประพฤติผิดต่อกำเนิดของตน
เพื่อความเข้าใจท่านอรรถาธิบายว่า คนมีเพศบกพร่อง มี 2 ประเภท 1 บัณเฑาะก์ 2 คนมี 2 เพศ
คนประพฤติผิดพระธรรมวินัยมี 7 จำพวก 1 คนฆ่าพระอรหันต์ 2 คนประทุษร้ายนางภิกษุณี 3 คนลักเพศ 4 ภิกษุไปเข้ารีดเดียรถีย์ 5 ภิกษุต้องอาบัติปราชิก แม้จะลาเพศสมณะไปแล้วก็ตาม 6 ภิกษุทำสังฆเภท คือทำสงฆ์ให้แตกแยกกัน 7 คนทำร้ายพระศาสดาจนถึงห้อพระโลหิต
คน ประพฤติผิด ต่อกำเนิดของตน มี 2 จำพวก 1 ฆ่ามารดา 2 ฆ่าบิดา
คนถูกห้ามบรรพชาอุปสมบทอีก 8 จำพวก
1 มีโรคติดต่อกัน เป็นโรคไม่รู้จักหาย คือเป็นโรคเรื้อรัง 2 คนมีอวัยวะบกพร่อง 3 คนมีอวัยวะไม่สมประกอบ 4 คนพิการ 5 คนทุรพล 6 คนมีเกี่ยวข้อง 7 คนเคยถูกอาญาหลวง และ 8 คนประทุษร้ายความสงบ
ท่านอธิบายต่อว่า โรคอันจะติดต่อกัน เช่นโรคเรื้อน โรคฝี โรคกลาก โรคพยาธิ โรคลมบ้าหมู และ โรคมองคร่อ คือเสมหะติดก้านคอเรื้อรัง
คนมีอวัยวะบกพร่องมี 9 จำพวก 1 มีมือขาด 2 มีเท้าขาด 3 ทั้งมือทั้งเท้าขาด4 มีหูขาด 5 คนมีจมูกขาดหรือจมูกแหว่ง 6 คนมีทั้งหูทั้งจมูกขาด 7 คนมีนิ้วมือนิ้วเท้าขาด 8 คนมีง่ามมือง่ามเท้าขาด 9 คนมีเอ็นขาด
คนมีอวัยวะไม่สมประกอบ มี 6 จำพวก
คนมีมือเป็นแผ่น คือนิ้วมือ ไม่ได้จัดเป็นง่าม มีหนังติดกันในระหว่าง 2 คนค่อมมีหลังโกง 3 คนเตี้ย คือเตี้ยกว่าคนปกติ 4 คนคอพอก 5 คนตีนปุก 7คนประทุษร้ายบริษัท คือคนแปลกเพื่อนท่านว่า สูงเกินไปบ้าง ต่ำเกินไปบ้าง ดำเกินไปบ้าง ขาวเกินไปบ้าง ผอมเกินไปบ้าง อ้วนเกินไปบ้าง เป็นต้น ถ้าแก้หาย ก็บวชได้
ส่วนที่คนพิการเข้ามาบวขและเป็นข่าวทางสิ่อมวลชนและโซเชี่ยลมีเดียนั้นได้มีคำถามว่าอุปัชฌาย์บวชให้ได้อย่างไร เพราะกฎเกณฑ์ห้ามคนพิการเข้ามาบวช
ท่านระบุไว้ว่า
คนพิการ 9 จำพวกที่ห้ามบวช
1 คนตาบอดตาใส หรือคนเป็นต้อกระจก
2 คนง่อย มีมือหงิกบ้าง เท้าหงิกบ้างนิ้วหงิกบ้าง
3 คนกระจอก คือมีเท้าขาพิการเดินไม่ปกติต้องเดินโขยก
4 คนตาบอดมืดคือมีดวงตาเสีย
5 คนใบ้
6 คนหูหนวก
7 คนทั้งบอด ทั้งใบ้
8 คนทั้งใบ้ทั้งหนวก
9 คนทั้งบอด ทั้งใบ้ ทั้งหนวก
ที่สำคัญ กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 17 พ.ศ 2536 ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ 2535 หมวด 3 พูดถึงหน้าที่พระอุปัชฌาย์ โดยได้ตราสั่งบังคับพระอุปัชฌาย์ ต้องงดเว้น การให้บรรพชาอุปสมบทคนต้องห้ามไว้ดังนี้
พระอุปัชฌาย์ ต้องงดเว้นการให้บรรพชาอุปสมบท แก่คนต้องห้ามเหล่านี้
1 คนทำความผิดหลบหนีอาญาแผ่นดิน
2 คนหลบหนีราชการ
3 คนต้องหาในคดีอาญา
4 คนเคยถูกตัดสินจำคุก โดยฐานเป็นผู้ร้ายสำคัญ
5 คนถูกห้ามอุปสมบทเด็ดขาดตามพระศาสนา
6 คนมีโรคติดต่อเป็นที่ที่น่ารังเกียจเช่น วัณโรคในระยะอันตราย
7 คนมีอวัยวะพิการจนไม่สามารถปฏิบัติกิจพระศาสนาได้
กรณีพระพิการ น่าจะเข้าในข้อที่ 7 จึงเป็นหน้าที่เจ้าคณะชั้นปกครองต้องสอบสวนพระอุปัชฌาย์ว่าทำการอุปสมบทบุคคลนั้นได้อย่างไร เพราะถือว่าละเมิดจริยาพระอุปัชฌาย์ ผู้ละเมิดมีโทษหนัก
1 ต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่ง
2 หรือระงับหน้าที่อุปัชฌาย์ไม่เกิน 2 ปี
3 เรียกตัวมาอบรมชั่วคราวไม่เกิน 1 ปี
4 ให้ทำทัณฑ์บน
5 ตำหนิโทษเป็นลายลักษณ์อักษร
ล่าสุดพระพิการรูปนั้นถูกจับสึก แต่ก่อนจะสึก ตะโกนโวยวายว่า เขาเป็นพระสังกัดคณะธรรมยุต จึงเป็นการบ้านให้คณะพระธรรมยุต ตรวจสอบว่าใครเป็นอุปัชฌาย์ เมื่อสอบแล้วสมควรจะถูกลงโทษอย่างไร คิดว่าคณะธรรมยุตคงไม่นิ่งเฉย อย่าปล่อยให้ปลาเน่า หรือผู้ทำปลาเน่าลอยนวลเลยครับ เพราะเหม็นไปทั้งข้อง