ศาลไม่ให้ประกัน “ทนายตั้มและภรรยา” ชี้อาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนได้ ส่งตัวเข้าเรือนจำ
วันที่ 8 พ.ย.ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสอนกองปราบปรามนำตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา ฉ้อโกง , ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม เป็นผู้ต้องหาที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิด ฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1
ทั้งนี้ ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันผู้ต้องที่ 2 พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท รวมทั้งรับเงื่อนไขให้ศาล ติดกำไล em รวมทั้งเรื่องห้ามออกนอกประเทศ และมารายงานตัวตามนัดทุกครั้ง
ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี พนักงานสอบสวนคัดค้านเกรงจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และผู้เสียหายคัดค้านเกรงจะหลบหนีไม่ได้รับชดใช้ค่าเสียหายคืน ประกอบกับต้องทำการสอบสวนพยานอีก 10 ปาก กรณีอาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนได้ และเป็นกรณีที่มีความจำเป็นต้องปกป้องกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงเข้าสู่สำนวนคดี ในชั้นสอบสวนนี้จึงมีเหตุอันสมควรที่จะรอฟังผลให้เสร็จสิ้นก่อน จึงให้ยกคำร้อง
ภายหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้คุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ไปส่งยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลาง ต่อไป