เตือนประชาชน ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา รับมือน้ำสูง

เตือนประชาชน ริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา รับมือน้ำสูง
เตือนประชาชน และผู้ประกอบการริมน้ำ เตรียมพร้อมรับมือน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30 – 50 ซม. 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในพื้นที่บริเวณจังหวัดอุทัยธานี กำแพงเพชร สุพรรณบุรี ทำให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,116 ลบ.ม./วินาที ล่าสุด ศปช. ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ 11 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา น้ำสูงขึ้นประมาณ 30 - 50 ซม. โดยกรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัด ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว

“ขอแจ้งเตือนประชาชน และผู้ประกอบการริมน้ำ เตรียมพร้อมรับมือน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30 – 50 ซม. ในพื้นที่ 11 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมยกของขึ้นที่สูงและติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด”

ทั้งนี้ ศปช. คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอีกระยะหนึ่ง โดยในวันที่ 25 ต.ค. 67 เพิ่มเป็น 1,750 ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 26 ต.ค. 67 เพิ่มเป็น 1,900 ลบ.ม./วินาที หากในช่วงวันที่ 26 - 27 ต.ค. ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนลดลงจะปรับลดการระบายน้ำลงให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ล่าสุดที่ประชุม ศปช. ได้สั่งการให้กรมชลประทานพิจารณาลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิต์ที่จะไหลลงมาสมทบที่เขื่อนเจ้าพระยาแล้ว เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด 

ด้านพายุโซนร้อนจ่ามี คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์ในวันนี้ จากนั้นจะเคลื่อนไปยังประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 26 - 27 ต.ค. นี้ ก่อนที่จะวนกลับไปในทะเลจีนใต้อีกครั้ง ซึ่งพายุลูกนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย แต่อาจส่งผลให้ประเทศไทยมีเมฆเพิ่มขึ้นและมีฝนบางพื้นที่กับมีลมแรงโดยเฉพาะทางตะวันออกของภาคอีสานในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร ยโสธร ซึ่งยังต้องติดตามพายุลูกดังกล่าว เนื่องจากทิศทางยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

TAGS: #น้ำท่วม