“ทวี” ลั่นต้องสาวให้ถึงเบื้องหลัง นักการเมือง ส.-เทวดา “คดีดิไอคอน” 

“ทวี” ลั่นต้องสาวให้ถึงเบื้องหลัง นักการเมือง ส.-เทวดา “คดีดิไอคอน” 
"ทวี” โต้  กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน คดีดิไอคอน- ตากใบ ลั่นต้องสาวผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมือง ส.-เทวดา เผยสั่งกรมราชทัณฑ์เร่งหาแนวทางแยกผู้ต้องหาออกจากนักโทษเด็ดขาด  ยังหวังปาฏิหาริย์คดีตากใบ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมภายหลังผู้ต้องหาคดีดิไอคอนถูกปฏิบัติเหมือนนักโทษ ว่า เราต้องยอมรับขีดจำกัด เพราะเรือนจำมี 143 แห่ง บรรจุผู้ต้องขังได้ 200,000 คน แต่ปัจจุบันมีเกือบ 300,000 คน เราก็ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ ตอนนี้ทั้งหมดยังไม่ได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ เป็นการเฝ้าดูอาการตามระเบียบ หลังจากนั้นทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจําพิเศษกรุงเทพ ทั้งสองเรือนจำก็จะมีที่คุมขัง เช่น คดีดิไอคอนจะไม่มีการตัดผมผู้ต้องหา สามารถพบทนายและญาติเพื่อเตรียมต่อสู้คดี ขอย้ำว่าเป็นการปฏิบัติเหมือนกันทุกคน ทั้งนี้ ได้ให้นโยบายไปว่า จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังระหว่างที่มีประมาณ 70,000 คน อยู่รวมกับผู้ต้องขังเด็ดขาด ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์กำลังดำเนินการอยู่ 

ถามว่า มีการเปรียบเทียบกระบวนการยุติธรรมคดีที่ประชาชนถูกกล่าวหาเดินหน้าได้ไว กับคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหา เช่น คดีตากใบเดินหน้าช้า จนถูกมองว่าสองมาตรฐาน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถือเป็นความรู้สึกของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องชี้แจง จะเห็นได้ว่าหลังปี 67 เราทำคดีตากใบมา 3 เดือน ถือว่าไม่ล่าช้า 

เมื่อถามถึง กรณีนักการเมือง ส.ที่มีการพูดคุยกับบุคคลที่ถูกเรียกว่าเป็นเทวดา และเผยแพร่คลิปจะมีการดำเนินการและเอาผิดได้อย่างไร พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า คดีดิไอคอนเป็นของตำรวจที่กำลังดำเนินการอยู่ และสามารถทำได้ดี คดีในลักษณะนี้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอาญา เราจะดำเนินการให้ไร้รอยต่อในเรื่องของการฟอกเงิน ซึ่งสุดท้ายปลายทางเราเป็นห่วงผู้เสียหาย หากสามารถติดตามทรัพย์สินกลับคืนมาได้มากเท่าไหร่ จะทำให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยา ส่วนประเด็นระหว่างทางจะมีการฟ้องดำเนินคดี การให้ข้อมูลยิ่งเปิดเผยยิ่งเป็นข้อดี เพราะกระทรวงยุติธรรม หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรากำลังพัฒนาให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญให้ได้ ซึ่งต้องมีความสามารถในการค้นหาความจริง โดยเฉพาะผู้บงการ ผู้ใช้ ผู้จ้าง ผู้วาน หรือผู้ได้รับผลประโยชน์ เราไม่ควรปล่อยปละละเลย พวกนี้จะต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย

พ.ต.อ. ทวี กล่าวถึง คดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในอีกไม่กี่วัน หมดหวังที่จะนำคนผิดมาลงโทษแล้วใช่หรือไม่ ว่า เรื่องนี้ต่างฝ่ายตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงพยายามที่จะทำอย่างเต็มที่ ก็หวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ เพราะในการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม แม้จะไม่มีอำนาจจับกุม เพราะจับกุมได้เฉพาะที่เป็นคดีพิเศษ แต่ได้มีการตัังผู้สอบสวนหลายคนเข้าไปช่วยสนับสนุนสืบสวนข้อมูลกับทางตำรวจ บุคคลที่เราหวังว่าจะได้ตัวมาบางคนได้หลบไปอยู่ต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เราเห็นใจผู้เสียหาย ซึ่งมันจะตรงกับคำกล่าวที่ว่า ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม โดยเฉพาะในคดีอาญา แต่สำหรับเรื่องของอายุความมีการพิจารณาว่าจะมีการแก้ไขหลายครั้ง แต่ต้องแก้เป็นกฎหมาย และเวลาจะหยิบมาแก้ไข ซึ่งรัฐธรรมนูญจะต้องไม่มีการแก้ไขให้คนใดคนหนึ่ง ถ้าเราจะหยิบมาในกรณีของภาคใต้นั้น ถ้าดูจากคนที่หลบหนีตอนนี้มีประมาณ 1,789 หมาย แต่ถ้าเป็นตัวคนจะเท่า 1,067 หมาย คือมีหมายที่ซ้ำกัน 722 หมาย และคนที่ถูกหมายจับส่วนใหญ่ไม่ใช่ข้าราชการ เป็นบุคคลที่เขาคิดว่าเขาต้องหลบหนี บางส่วนอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และในเรื่องนี้มีที่ขาดอายุความ 140 ราย ฉะนั้นการที่จะพิจารณาเรื่องใดต้องพิจารณาให้รอบด้าน สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกหน่วยต้องทำให้เต็มที่ ในช่วง 2-3 วันนี้ ทุกคนต้องทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ แม้ว่าคนที่หนีไปจะมีการออกหมายจากตำรวจสากล ไปอยู่ประเทศไหนก็ให้เอาตัวมาได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงเวลา 2-3 วันนี้ จะสามารถออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อขยายอายุความได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมเคยให้ศึกษา แต่เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีกรรมาธิการจากทุกพรรคมาช่วยกันพิจารณา ยืนยันรัฐบาลไม่มีอคติ และจะพยายามติดตามจับกุม ซึ่งต้องถือเป็นบทเรียนของสังคมไทยอย่างหนึ่ง ที่พอเรื่องนี้เกิดความเสียหายกับคน มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เลยทำให้สังคมติดตาม ส่วนหนึ่งเป็นระบบของกฎหมาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความล่าช้าของสำนวน ทราบว่าเมื่อปี 62 หลังจากอัยการงดการสอบสวนแล้ว พอมาต้นปี 67 พอกรรมาธิการติดตามเรื่องนี้ก็ทราบว่า ที่ศาลสั่งไต่สวนการเสียชีวิตของประชาชน ศาลยังไม่ได้บอกว่า ใครเป็นผู้ทำให้เสียชึวิต และผู้เสียชีวิตเป็นใคร คิดว่าตำรวจจะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติม และจากการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทราบว่าตำรวจในอดีตสอบพยานเกือบ 100 ปากภายใน 3 เดือน จนมาสู่การออกหมายจับ แต่เนื่องจากระบบของเราถ้าจะฟ้องต้องมีตัวคนไปฟ้องต่อศาล อย่างไรก็ตาม ทุกข้อเสนอแนะเรานำไปศึกษา และร่วมหาทางออก ซึ่งเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต จำได้ว่าการเยียวยาช่วงตากใบ เราก็บอกว่ากฎหมายศอ.บต การเยียวยาไม่ตัดสิทธิ์กับผู้ได้รับการเยียวยา ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง และไม่ตัดสิทธิ์ที่จะได้รับผลประโยชน์อื่นๆ ดังนั้น การเยียวยาจึงไม่ใช่การเยียวยาในคดีอาญา แต่เป็นการมองว่าการเปลี่ยนผ่านความโหดร้ายหรือความอยุติธรรม หรือความไม่เป็นธรรม สิ่งหนึ่งคือ ต้องให้ความเป็นธรรม และความเป็นธรรมนั้นเกิดจากการเยียวยา ซึ่งมีครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบเป็นกรรมการด้วย

เมื่อถามว่า กรณีนี้เป็นห่วงกันไม่ว่าจะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคประชาชาติ ถ้าไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เลยสักคน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ความจริงมันจบไปแล้ว คนที่นำเรื่องนี้ขึ้นมาคือ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาชาติ นำเรื่องเข้ากรรมาธิการ และเห็นว่าเรื่องนี้มีอายุความล็อกอยู่ ซึ่งมาศึกษาว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยได้ อย่างน้อยที่สุดคดีได้นำไปสู่การออกหมายจับแล้ว ทำให้ผู้ที่เสียชีวิตได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องการจับกุม มันก็ไม่ใช่คดีแรกที่เราจับกุมไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ถ้าเรามีหลักฐานการที่ออกไปอยู่ต่างประเทศที่เป็นทางการ อาจจะมี 2 คน ส่วนที่ไม่เป็นทางการ เป็นบุคคลที่เราไปสะกดรอยตาม และคาดว่าจะได้ตัว ข้อมูลทางเทคโนโลยีระบุว่าไปอยู่ต่างประเทศแล้ว จึงทำให้เราตามตัวยาก เราพยายามทำเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตามเหลือเวลาอีก 2-3 วัน ขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงประชาชน และบุคคลที่ออกมาต่อสู้ด้วย ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล นักวิชาการ

เมื่อถามว่า มีผู้ต้องหาคนใดที่มีแนวโน้มจะได้ตัวมาใน 2-3 วันนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเขาไม่ฟังผู้บังคับบัญชา และไม่ฟังญาติ เขาคิดว่ามีเสรีภาพ มีอายุความ ซึ่งเป็นเรื่อง ของโทษตามกระบวนการและกฎหมาย ส่วนพวกที่หลบหนี ความรู้สึกของสังคมก็จะตามเขาไปตลอด 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์หมายถึงอะไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เราทุกคนทุ่มเทกำลังทุกอย่างไปเพื่อทำงานนี้

TAGS: #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ทวีสอดส่อง #ดิไอคอน #คดีตากใบ