สำนักงานตำรวจ แจงความคืบหน้า "ดิไอคอนกรุ๊ป" จ่อเอาผิดคดีกฎหมายแชร์ลูกโซ่ หลังมีผู้ร้อง 2,170 ราย มูลค่าความเสียหาย 841 ล้านบาท
ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงความคืบหน้าคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ขณะนี้ตำรวจได้จับกุม คุมขัง ผู้ต้องหาที่เก่ยวข้อง 18 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ และพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะผิดทางพรก. การกู้ยืมเงินหรือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งจะมีข้อกล่าวหารุนแรงกว่าคดีฉ้อโกง ทั้งนี้ตำรวจได้ขอความรวมมือจากผู้เชี่ยวชาญจากสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อดูว่าผู้ต้องหาว่าได้มีการนำทรัพย์สินไปซ่อนไว้ในสินทรัพย์คริปโตเรนซี่หรือไม่ พร้อมกันนี้ทางสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ก็ได้ช่วยสืบคู่ขนาน ค้นหาทรัพย์สินผู้ต้องหาที่ซ่อนไว้
ถึงปัจจุบันตำรวจได้อายัดทรัพย์มูลค่า 210 ล้านบาท เป็นรถยนต์หรู 24 คัน เงินสด 75 ล้านบาท นาฬิกาหรูอีก 51 เรือน ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนได้ถูกโยกย้ายไปก่อน ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ที่ดำเนินการ ถือมีความผิดตามคดีกฎหมายฟ้องเงิน
ทั้งนี้ตำรวจแจ้งว่า ตลอด 9 วันที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายจำนวน 2,170 ราย เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ กองบังคับการปราบปราม เป็นมูลค่าความเสียหาย 841 ล้านบาท โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้สถานีตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความผู้เสียหายคดีนี้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีไหนทั่วประเทศไม่รับแจ้งความ ก็จะดำเนินคดีทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือว่าไม่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า การกุมขังผู้ต้องหา 18 ราย ในคดีฉ้อโกง สามารถขออำนาจศาลได้ 4 ผลัด ผลัดละ 12 วัน ในกรณีที่มีความผิดคดีอาญาที่สอบสวนอยู่นี้ แต่หากมีการแจ้งความเพิ่มเติมมีความผิดแบบคดีแชร์ลูกโซ่ จะสามารถขอคุมขังได้ 6 ผลัด เนื่องจากมีโทษที่ร้ายแรงกว่า คดีอาญา