กลุ่มหนุน "ดิไอคอน"บุก ร้องนายกฯ "ทนาย"เตรียมเยียวยาผู้เสียหาย "บอสพอล" เบี้ยวแจงสคบ. 

กลุ่มหนุน
“กลุ่มหนุนธุรกิจดิไอคอน” บุกร้องนายกฯ วอนสังคมเข้าใจธุรกิจมี ขายได้ - ขายไม่ได้ ยังเชื่อมั่น “บอสพอล” ไม่เคยหลอกลวงให้ลงทุนเป็นขั้นบันได ด้าน"ทนาย"เตรียมวางแนวทางเยียวยาผู้เสียหาย

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป นำตัวแทนผู้ขายที่ได้รับผลกระทบจากกรณีมีผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษว่า บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่ากระทำความผิดต่อประชาชน และความผิดฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกหลายฐาน กระทั่งท้ายที่สุดถูกพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคตั้งข้อกล่าวหา ทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้การขายสินค้าดังกล่าวส่งผลดีต่ออาชีพ และการดำรงชีวิตของบุคคลในครอบครัวเรื่อยมา การที่บริษัทฯ และพวกถูกใส่ความ และถูกดำเนินคดีกระทั่งมีการอายัดทรัพย์รวมทั้งการเสนอข่าวทำให้ผู้ขายได้รับผลกระทบ จึงมาขอความเป็นธรรมนายกรัฐมนตรี

ด้าน ตัวแทนผู้ขาย กล่าวว่า สืบเนื่องจากกระแสข่าว และการเผยแพร่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมีเดียที่ไปทิศทางเดียว ทำให้ฝ่ายผู้ขายที่ขายสินค้าได้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีลูกค้าขอยกเลิกออเดอร์กะทันหันทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้ และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ส่วนตัวเพิ่งเข้ามาช่วงเดือนมิ.ย. กิจการเจริญรุ่งเรืองเติบโตไม่มีผลเสีย ซึ่งตนได้ทำงานตามระบบที่บอสบอกมีลูกค้าประจำ แต่เมื่อเกิดกระแสสังคมที่โจมตีบริษัท ทำให้ของไม่สามารถขายของได้ขาย เบิกสินค้าไม่ได้เพราะอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ ส่วนที่บอกว่าส่งของไม่ทันขอยืนยันว่าบริษัทมีของส่งให้ตลอด และโอนเงินตรงตามเวลาตลอด ดังนััน วันนี้ตนและผู้ขายบางส่วนจึงมาขอความเป็นธรรมในฐานะผู้เสียหายที่ขายสินค้าได้มาตลอด

ขณะที่ตัวแทนผู้ขายอีกราย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีทั้งบุคคลที่ขายสินค้าได้ และขายไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการขายสินค้าออนไลน์ ตนก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้เปิดบิล 250,000 บาท ตนรู้ว่ากำลังของตนอยู่แค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาครู โค้ช และพี่เลี้ยงบอกหมดว่าการเปิดบิลมีระดับแบบไหนอย่างไร ซึ่งเราต้องประเมินตัวเองว่าเราไหวแค่ไหน แต่ตนเมื่อลงทุนไปแล้วไม่ได้รู้สึกกลัวแต่รู้สึกว่าต้องทำด้วยกันเรียนไปขายไป ซึ่งปัจจุบันก็ยังขายอยู่ วันนี้ที่พวกเรามาคือพวกเราได้รับผลกระทบจากกระแสสังคม เพราะเราขายสินค้าได้ ซึ่งเป็นสินค้าที่เรากินเราใช้ และไม่อยากให้โจมตีกันไปมา แต่อยากให้เปิดใจรับฟังความเห็นที่แตกต่าง หากสินค้าไม่ดีจริงก็คงขายไม่ได้ โดยกลุ่มผู้ขายสินค้าได้ได้ยกตัวอย่างที่มีคนบอกว่าไม่เคยเห็นสินค้าของบริษัทดิไอคอนฯ จึงขอพูดในฐานะผู้บริโภคว่า บางแบรนด์หรือบางยี่ห้อตนก็ไม่รู้จัก ซึ่งก็ไม่เคยไปว่าบริษัทนั้นเลย ซึ่งในอดีตตนเคยขายมาหลายบริษัทก็เคยสต๊อกสินค้า แต่เป็นเพราะว่าตนไม่มีศักยภาพในการขายเท่านั้น แต่วันนี้ตนได้มาเรียนรู้และขายออนไลน์กับดิไอคอนกรุ๊ป จึงอยากให้ทุกคนเปิดใจ

นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าที่มาวันนี้ไม่มีใครจ้างมา กล้าสาบานต่อหน้าไฟ ว่าวันนี้มาด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้มาเพื่ออะไรทั้งนั้น และไม่ต้องการแบ่งแยกกับใคร เข้าใจหัวอกผู้เสียหายทุกคน แต่พวกตนก็เสียหายจากกระแสสังคมเช่นกัน จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่าบุคคลที่บอกว่าเสียหายเสียหายเรื่องอะไร และได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง

เมื่อถามว่า การขายสินค้าได้รายได้เท่าไหร่ต่อเดือน หนึ่งในตัวแทนผู้ขายสินค้า กล่าวว่า การขายสินค้าออนไลน์ไม่เคยตายตัวเรื่องรายได้ หากขยันมากก็ได้มากแต่หากขยันน้อยก็ได้น้อย ไม่สามารถระบุเป็นตัวเงินได้ บางเดือนหากขี้เกียจก็ยังได้หลักพัน ซึ่งในส่วนของตนขณะนี้ได้ทุนคืนมาหมดแล้ว   

เมื่อถามว่า มีการหลอกให้ลงทุนหรือบังคับให้ลงทุนเป็นขั้นบันไดหรือไม่ ทุกคนต่างตะโกนพร้อมกันว่าไม่มีใครบังคับเป็นการค้าปลีก ค้าส่งและดินเลอร์ตามที่บอสได้แบ่งปัน พร้อมตะโกนพร้อมกันอีกครั้งว่ายังเชื่อมั่นในตัวบอสพอล เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีคำพูดคำไหนของบอสพอลที่ไปส่อเสียดเบียดเบียนผู้อื่น มีแต่สอนและให้คุณธรรม

ขณะที่ตัวแทนผู้ขายอีกราย ระบุว่า การลงทุน 250,000 บาท ปลูกบ้านจะให้เหมือนกับการปลูกต้นไม้หรือปลูกบ้านแล้วรอให้เทวดามาเลี้ยงหากไม่ศึกษาข้อมูลไม่กินขายขยายส่งต่อ และประเมินผล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นพวกคุณทำผิดเงื่อนไขที่เอาคนมาขยายต่อแต่ไม่คิดที่จะเรียนรู้ไปกับมัน ซึ่งมีบทสอนอยู่ และบอสก็สอนว่าต้องทำอย่างไร ฉะนั้นบุคคลที่มาร้องเรียนเพราะคุณไปทำผิดกฎ ที่ไม่ยอมกินขายขยายส่งต่อ และไม่ทำอะไรเลยแล้วมาบอกว่าเสียหาย การเอาเงินมา 250,000 บาท เทวดาไม่ได้เลี้ยง

ด้าน นายวิฑูรย์ ทนายความ กล่าวถึง การเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากดิไอคอนกรุ๊ป   ว่า ตอนนี้มีการประชุมกันอยู่ว่าจะมีแนวทางอย่างไร    ซึ่งคนที่ขายของไม่ได้ที่เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดของตัวแทนบางคน   ที่ให้ไปหาคนเพิ่ม และกลุ่มคนที่นำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา     โดยไม่ได้ประเมินว่าตัวเอง เหมาะกับการซื้อแบบขายส่ง 25,000 บาท หรือการซื้อแบบดีลเลอร์ 250,000 บาท 

ซึ่งตามที่ตนเห็นในข่าวคนกลุ่มนี้สิ้นเนื้อประดาตัว    บางคนโดนภรรยาไล่ออกจากบ้าน   ทางบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จะออกประกาศแบบมีเงื่อนไข   ให้มาลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน    ให้เราตรวจสอบว่าเสียหายจริงหรือไม่  ซื้อของแล้วได้รับสินค้าจริงหรือไม่ และจะมีการช่วยเหลือบรรเทาให้ 

เมื่อถามว่าแต่ในตอนนี้ บอสพอลถูก ปปง. อายัดทรัพย์   จากกระทบต่อเงินที่นำมาเยียวยาผู้เสียหายหรือไม่    นายวิฑูรย์  กล่าวว่าหากพูดจริงๆก็กระทบ แต่คงจะต้องหาทางเพื่อนำทรัพย์สินตรงนี้มาจ่ายให้ผู้เสียหาย   ซึ่ง  ปปง.ได้อายัดทรัพย์ไว้ 90 วัน  ตนก็มีความหวังว่าให้ผู้เสียหายลงชื่อ ไว้ก่อน อีก 90 วัน เมื่อได้รับเงินกลับคืนมา อาจจะใช้เงินส่วนนี้มาจ่ายให้ก็ได้ 

เมื่อถามว่าดาราที่เป็นบอส ต้องมีมีส่วนร่วมในการนำเงินมาชดใช้ให้ผู้เสียหายหรือไม่นายวิฑูรย์   กล่าวว่า เรื่องนี้ตนว่าไม่เกี่ยวกับเขา ให้ทางบอสพอลรับจบดีกว่า  ส่วนบอสที่เป็นดาราจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจ    ตนไม่รู้ว่าตำรวจจะมองอย่างไรให้ตำรวจทำหน้าที่ไปตามกระบวนการ

ส่วนกรณีที่ตัวแทนฆ่าตายฆ่าตัวตายจากการขายสินค้าไม่ได้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น  นายวิฑูรย์กล่าวว่า ทางบอสพอลจะมีการติดต่อไป   ซึ่งได้มีการประสานงานเบื้องต้นไปแล้ว

เมื่อถามว่าการอายัดทรัพย์เนื่องจากปปง.มองว่ามีการโยกย้ายทรัพย์สินแบบผิดปกติ  นายวิฑูรย์กล่าวว่าตนไม่ทราบอ่านในคำสั่งก็ไม่มี ปปง.น่าจะยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบก่อน  เชื่อว่า   ปปง.ก็ทำตามหน้าที่ ตนไม่ขอก้าวล่วง

สื่อถามถึง ความรู้สึกของบอสพอลหลัง ปปง. อายัดทรัพย์     นายวิฑูรย์   กล่าวว่าเมื่อวาน(15 ต.ค.) ได้เจอกับบอสพอล เจ้าตัวก็พูดไม่ออก   ซึ่งไม่ได้คุยกันในรายละเอียด 

เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวบุคคลอักษรย่อ ธ. ที่เป็นนักการเมืองมาเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป    นายวิฑูรย์    กล่าวว่าตนไม่ทราบ มีแต่ คนที่ออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ชื่อนายธเนตร วงษา  อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ   กทม.     ซึ่งทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค ไม่น่าจะเป็น ธ. ที่เป็นนักการเมือง 

เมื่อถามว่าเคยมีนักการเมืองมาพบกับบอสพอล หรือเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป    นายวิฑูรย์    กล่าวว่าตนเป็นทีมกฎหมาย ก็ไม่เคยเจอนักการเมืองเข้ามาวุ่นวาย 

ส่วนกรณีที่บอสพอลบอกให้สื่อฯ ลบคลิปเสียงสนทนากับนักการเมืองออก ไม่เช่นนั้นจะฟ้องสื่อมวลชนมี การกำชับว่าจะฟ้องสื่อใดบ้าง   นายวิฑูรย์   กล่าวว่าไม่มี ตนไม่ทราบและไม่ใช่ตน   พูดไปซึ่งไม่รู้ว่าตอนนั้นบอสพอลเป็นอย่างไร    น่าจะกำลังเครียดและตอนนี้ได้ลบโพสต์ไปแล้ว   พร้อมระบุว่าตนจะไปฟ้องสื่อทำไม   มันไม่มีประโยชน์ 

เมื่อถามว่าหลังจากที่บอสพอไปออกรายการสองรายการมีความรู้สึกเครียดหรือไม่   นายวิฑูรย์    กล่าวว่า กระแสออกมาขนาดนี้ก็ต้องเครียด  พูดตรงๆ เรื่อง ก็ต้องเครียด เป็นตน  ก็เครียด

ส่วนเตรียมพร้อมเรื่องการถูกดำเนินคดีอย่างไรบ้างนั้น     นายวิฑูรย์   กล่าวว่ายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้  ต้องรอดูข้อกล่าวหาจากตำรวจก่อน ตนถึงจะสามารถพยากรณ์ได้ แต่ขออนุญาตยังไม่พูด ขอให้เป็นความลับทางคดี

เมื่อถามว่ายังเชื่อมั่นอยู่หรือไม่ว่าธุรกิจนี้จะยังสามารถดำเนินต่อไปได้     นายวิฑูร์กล่าวว่า  ตนยังมีความเชื่อมั่น และสงสารตัวแทนที่เขาขายของได้  ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ   แต่รูปแบบธุรกิจ ตามที่พูดไว้ในรายการคือไม่รับตัวแทนใหม่

จากกรณี สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ทำหนังสือเรียก นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหาร บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้ามาชี้แจงถึงการดำเนินธุรกิจ ว่า ขัดต่อ พ.ร.บ.ขายตรง และตลาดแบบตรงหรือไม่ ในเวลา 10.00 น. 

แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้สื่อข่าวที่ปักหลัก และกระจายตัวอยู่ตามประตูทางเข้าในหลายจุด กลับไม่พบตัว บอสพอล เดินทางมาที่สคบ. ตามที่มีหนังสือเรียกเข้ามาชี้แจง กระทั่งเลยจากเวลานัดไปแล้ว 1 ชั่วโมง เวลา 11.00 น. ก็ยังไม่เห็นบอสพอล มาที่สคบ.

นายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการ สคบ. ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ทนายความของ บอสพอล ติดต่อมาว่า อ้าง บอสพอล ไม่พร้อมเข้ามาชี้แจงตามหมายเรียกของสคบ. และพยายามเลื่อนเข้าชี้เป็นช่วงบ่ายวันนี้ รวมทั้งขอเลื่อนออกไปอีก 15 วัน แต่เจ้าพนักงานสอบสวน สคบ. ไม่อนุญาต เพราะถือว่า มีการทำหนังสือชัดเจนแล้ว และเป็นเหตุการณ์เร่งด่วนที่จะต้องเรียกสอบข้อเท็จจริงในวันนี้เท่านั้น  

หลังจากนี้ เตรียมส่งเรื่องที่ บอสพอล ขัดหมายเรียก เพื่อเปรียบเทียบความผิดกับตำรวจ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ 


 

TAGS: #ดิไอคอน #บอสพอล #สคบ