กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน150 ปีพิพิธภัณฑ์ไทย สยามศรีวิไลซ์ a passage to wisdom ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่19-21 กันยายน 2567
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน150 ปีพิพิธภัณฑ์ไทย สยามศรีวิไลซ์ a passage to wisdom ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่19-21 กันยายน 2567 สถานที่จัดงาน คือพระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน และพระที่นึ่งอิศราวินิจฉัย ถ้านิยมชมของแปลก ของหายาก ของสะสม ที่มีในพิพิธัณฑ์ และพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ที่เป็นเครือข่าย ไปที่นี่ที่เดียวจะเพลิดเพลิน และสะสมความรู้จากพิพิธภัณฑ์ต่างๆ กว่า 20 แห่ง รวมทั้งไฮไลท์ของพิพิธภัณ์แห่งชาติพระนครด้วย
1 ลำดับแรกได้แก่ไฮไลท์จากพิพิธภัณฑ์พระปกเกล้าฯ ที่อัญเชิญตราประทับ ที่มีพระปรมาภิไธยย่อ สมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 และที่เกี่ยวข้องกับพระองค์มาตั้งแสดง
หนังสือตำราเรียน ระดับประถมศึกษาที่เป็นพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 หาชมที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี้
2 พิพิธภัณฑ์กรมที่ดิน ซึ่งมีน้อยคนรู้จักแต่ ได้นำไฮไลท์ โฉนดที่ดิน ที่ออกให้กับผู้ครอบครอง คนหนึ่งในกรุงเทพฯ มีเนื้อที่เพียง 0.1 ตารางวาเท่านั้น ซึ่ง จัดว่า เป็นโฉนดที่ดิน ออกให้กับเจ้าของที่ดินที่มีผืนเล็กที่สุดในประเทศไทย อยากรู้ว่าตั้งอยู่ที่ไหนต้องไปดูเอง
ส่วนโฉนดที่ดินฉบับแรก ที่ออกในรัชการที่ 5 ก็ได้นำมาจัดแสดงด้วยเช่นกัน เรียกว่า ได้เห็นของใกล้ตัว แต่ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง
3 ที่ตื่นตาตื่นใจมาก เป็นพิเศษ คือกายวิภาคในตัวเราได้แก่หัวใจของมนุษย์ การก่อกำเนิดมนุษย์ในครรภ์มารดา โครงสร้างของมือที่ประกอบด้วยเส้น เอ็น กรระดูก ช่วยให้มนุษย์สามารถจับต้องและกระดิกได้ว่ามีโครงสร้างอย่างไร และเหนืออื่นใด ก็คือไตของมนุษย์ ว่ามีสภาพเช่นไร สามารถดูได้ ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนครในขณรันี้ หรือที่พิพิธภัณฑ์การแพทย์ ศิริราช
4 พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ และการบินแห่งชาติ นำประวัติการบิน และบุคคลสำคัญของกองทัพอากาศ คือ นายพลอากาศโท พระยาเฉลิมอากาศ บิดาแห่งกองทัพอากาศ ที่พูดว่า เราจะสร้างเครื่องบินขึ้นใช้เองให้ได้ และสร้างได้จริง เจ้าหน้ที่นำเครื่องบินลำแรกโดยฝีมือคนไทยลำนั้น มาจัดแสดงด้วย ( ในงานนี้จะพบรูปจำลองเครื่องบินนั้น)
ส่วนองค์การ พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพช)กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม นำความหลากหลาย ทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่เกิดในเมืองไทย หรือคนไทยเคยใช้ นำมาจัดแสดงไว้ อย่างน้าสนใจ
5 ที่น่าทึ่งคือ ผลงานของนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล ที่สต๊ฟฟ์ นกหายากต่างๆ ในเมืองไทย รวมทั้ง ผลงานการศึกษาวิจัยและรวบรวม เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีในประเทศไทยมาจัดพิมพ์ใช้เป็นหนังสืออ้างอิงทั่วโลก ด้วยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สูญพันธ์ไปแล้วคือสมัน แต่ นพ.บุญส่ง สามารถหาหัวสมันที่มีเขาและกิ่งสวยงามมาให้ำชมด้วยเช่นกัน
6 ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ซึ่งเป็นที่จัดแสดง ของหายากที่มีในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร มีของน่าชมมาก เช่นก้อนเหล็กไหลขนาดใหญ่ ที่มีถิ่นกำเนิดจากจังหวัดกาญจนบุรี พระพุทธรูป ปางมารวิชัย แต่เขียนด้วยลายเส้นสีทอง ใส่กรอบไว้ มีคำบรรยายว่า การเขียนภาพนี้ ใช้ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นโบราณประกอบเป็นเส้นสร้างเป็นพระพุทธรูปซึ่งพระญี่ปุ่นได้ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 เมื่อคราวเสด็จ ประเทศญี่ปุ่น ในพ.ศ 2473
นอกจากนั้นมีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยอู่ทอง หน้าตักประมาณ 5 นิ้ว ปางมารวิชัย พบที่กรุเจดีย์ วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูป ที่มีสภาพสมบูรณ์ ใครเห็นก็ต้องยกมือไหว้บูชา
พระพิมพ์เนื้อชินแผ่นใหญ่ พบในพระเจดีย์ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์เช่นกัน นำมาแสดงในที่เดียวกันด้วย
7 ของเล่นคนไทยที่มีความรู้ ความสามารถที่น่าอัศจรรย์ ประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างใจเย็น เป็นสมาธิ โดยนำตะกรัอหวายขนาดใหญ่ลอดปากขวดเข้าไปไว้ในขวดได้ รวมทั้งนำชะลอมไม้ไผ่ และบอนไซ ให้เข้าไปอยู่ในขวดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำบรรยายภาษาอังกฤษว่า Impossible bottle.
8 พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เริ่มเปิด ให้ประชาชนชมเมื่อวันที่ วันที่ 20 กันยายน 2417 ถึงวันนี้ครบ 150 ปี กิจการพิพิธภัณฑ์ได้กระจายไปทั่วประเทศถึง 1,000 กว่าแห่ง นายพนมบุตร จันทรโชติอธิบดีกรมศิลปากรว่าในอนาคต พิพิธภัณฑ์ จะเป็นแหล่งเรียนรู้ ของประชาชนอย่างถาวร ตลอดไป