"พร้อมพงศ์" ร้อง ปปง.ตรวจสอบพฤติการณ์-เส้นทางการเงิน“บิ๊กป้อม-นายโอ๋-ป๊อด” เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ สงสัย“เงินที่เรียกรับ”จากคลิปหลุด ไม่ใช่เงินที่เกิดจากหนี้ถูกกฎหมาย จี้สอบย้อนหลังตั้งแต่ปี58-ปัจจุบัน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขอให้พิจารณาไต่สวน ดำเนินคดีพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าพนักงานรัฐเรียกรับเงิน เข้าข่ายการกระทำผิดฐานฟอกเงิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินพล.อ.ประวิตร รวมทั้ง“นายโอ๋” และ "ป๊อด"(ซึ่งปรากฏชื่อในคลิป) ตามพรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น จากกรณีคลิปเสียงหลุด“เรียกรับเงิน” ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะที่เคยเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ จึงต้องประพฤติตนโดยยึดถือผลประโยชน์ชาติเหนือกว่าส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
“พูดง่ายๆ พล.อ.ประวิตรต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่เป็นการรับจากการให้โดยธรรมจรรยาซึ่งก็ต้องไม่เกิน 3,000 บาท ที่สำคัญจากบทสนทนาในคลิป น่าสงสัยว่าเงินที่พล.อ.ประวิตรถามหาเอาจากนายโอ๋ เป็นเงินที่ไม่ใช่เงินที่เกิดจากมูลหนี้อันชอบด้วยกฎหมาย และแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสุดท้ายแล้วมีการมอบเงินให้กับพลเอกประวิตรจริงหรือไม่ แต่ถือว่า เป็นความผิดสำเร็จแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2510“นายพร้อมพงศ์กล่าว