นายกฯสั่ง"ภูมิธรรม" บูรณาการ จัดการสินค้าต่างประเทศผิดกฎหมาย หลังตัวเลขทะลักสูงผิดปกติ วาง 4 มาตรการดูแล สร้างสมดุลเอสเอ็มอีไทย
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐนตรี(ครม.) ถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯสั่งการเรื่องมาตรการป้องกันธุรกิจการค้าขายสินค้าต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีข้อร้องเรียนจากภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะนักธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากการค้าในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งมีข้อร้องเรียนว่ามีการขายสินค้าออนไลน์ไหลเข้ามาสูงผิดปกติ โดยธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่เกี่ยวข้องกับการค้าปลีก ตัวเลขทางการเมื่อปีที่ผ่านมา มูลค่า 1.53 ล้านล้านบาท ฉะนั้นจึงกระทบกับภาคเอกชนของไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรี จึงยกมาเป็นข้อสั่งการโดยมอบหมายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นเจ้าภาพประสานร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ การคลัง เกษตรและสหกรณ์ ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) อุตสาหกรรม สาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำหนดมาตรการชัดเจนเป็นรูปธรรมในการไม่ให้การค้าออนไลน์และออฟไลน์จากต่างประเทศเขามากระทบกับธุรกิจของประเทศไทย
โดยมีมาตรการ 1.ตรวจสอบการจดทะเบียนธุรกิจการค้าและใบอนุญาตต่างๆ ถ้าใครค้าขายผิดกฎหมายหรือเป็นธุรกิจสีเทาไม่มีใบอนุญาต ไม่ขึ้นทะเบียนก็ต้องจัดการ
2.การตรวจสอบคุณภาพสินค้าว่าเป็นไปตามมาตราฐานของสถาบันต่างๆในปรเทศไทยหรือไม่ เช่น มาตราฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา( อย.) อย่างไรก็ตาม เพื่อปกป้องผู้บริโภคคนไทย สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) จะรับเป็นเจ้าภาพในเรื่องการตรวจสอบคุณภาพนี้
3. จะตรวจสอบใบอนุญาตสินค้าจากต่างประเทศ และการชำระอากรขาเข้าของผู้ประกอบการว่ามีการเสียภาษี มีการชำระอากรถูกต้องหรือไม่
และ 4.จะตรวจสอบใบอนุญาตการตั้งโรงงาน โดยให้กรมโรงงานเป็นผู้ตรวจสอบ ทั้งนี้ นายกฯย้ำว่า ตรวจสอบแต่ต้องรักษาสมดุลให้เป็นไปตามข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ