นายกฯ เผย หากมติ ก.พ.ค.ตร. กรณีคำสั่งบิ๊กโจ๊ก ออกราชการชอบด้วยกฎหมาย เตรียมนำความขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ต้องรอฟังศาลปกครอง ไม่ตอบตัดชื่อออกจากแคนดิเดต ผบ.ตร. หรือไม่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผย คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัย คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญช่าการตำรวจแห่งชาติออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมาย ว่าได้ข่าวว่ามีมติออกมาชัดเจนแล้ว ต้องรอให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีประสานเข้ามา หากมติออกมาเป็นอย่างไร หรือเป็นไปตามที่ผู้สื่อข่าวพูด นายกรัฐมนตรีต้องนำความขึ้นทูลเกล้าฯ
ส่วนที่พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยื่นศาลปกครองจะต้องรอผลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่ครับ อันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งและเป็นสิทธิของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ซึ่งเป็นไปอย่างที่ตนเองพูดไว้ว่าหาก ก.พ.ค.ตร. มีมติออกมาอย่างไร ก็ดำเนินการไปตามที่ได้พูดไว้ ทั้งนี้หากพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จะฟ้องร้องทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ออกจากราชการ รวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย นายกรัฐมนตรีตอบเพียงว่า "ครับ"
สำหรับชื่อของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จะถูกตัดชื่อออกจากแคนดิเดต ผบ.ตร. หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากก้าวล่วงตรงนั้น เพราะต้องมีการรับเรื่องมาจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีก่อนว่า ก.พ.ค.ตร. ตัดสินว่าอย่างไรก็ต้องนำความขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่อยากไปก้าวล่วงตรงนั้น ขอให้เป็นขั้นเป็นตอนไปก่อน
ทั้งนี้ต้องให้แคนดิเดต ผบ.ตร. ทำผลงานก่อนเลือกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี เห็นว่าเรื่องผลงานต่างๆ อยู่จิตใต้สำนึกของรองผบ.ตร. ทุกท่านอยู่แล้ว ทุกคนไม่ได้ทำงานเพื่อหวังแค่ตำแหน่งสูงสุดเพียงอย่างเดียว แต่ทุกคนทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญอยู่แล้ว เมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) เจอ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผบ.ตร. ก็มีความกังวลอยู่หลายเรื่อง และนายกรัฐมนตรีก็ได้สั่งการไปหลายเรื่องเช่นกัน