แจกเงินดิจิวอลเล็ต ยังสรุปไม่ได้ ชงกรรมการชุดใหญ่ เฉือนเงินแจกเหลือ 4.5 แสนล้านบาท คาดคนลงทะเบียนไม่ถึง 50 ล้านคน เลี่ยงใช้เงิน ธ.ก.ส เบ่งใช้แต่งบปี 67 และ 68
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยหลังหลังเป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปของโครงการ ต้องเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเห็นชอบในวันที่ 15 ก.ค. นี้
สำหรับประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป คือ แหล่งที่มาของเงิน จะมีการเปลี่ยนแปลงใช้จากงบประมาณ 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท เป็นการทำงบเพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท และบริหารจัดการงบ 4.3 หมื่นล้านบาท และงบปี 2568 ที่ตั้งไว้ 2.84 แสนล้านบาท เป็นการตั้งงบเพื่อโครงการนี้ 1.52 แสนล้านบาท และบริหารจัดการงบเพิ่มเติมอีก 1.32 แสนล้านบาท
จากแหล่งเงินงบปี 2567 และ 2568 จะมีงบรวมกันประมาณ 4.5 แสนล้านบาท ที่เพียงพอการแจกเงินดิจทัลวอลเล็ตคนละหมื่นบาท โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้เกิดความกังวลอีกต่อไป
“โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตคนละหมื่นบาท คาดว่าจะใช้เงิน 4.5 แสนล้านบาท เพราะคาดว่าผู้มีสิทธิลงทะเบียน 50 ล้านคน จะมาลงทะเบียนไม่ครบทั้งหมด คาดว่าจะมีคนมาลงทะเบียนประมาณ 90% ซึ่งการลงทะเบียนยังไม่รู้ว่าเริ่มวันไหน แต่สิ้นเดือนก.ย. จะรู้ว่ามีคนมาลงทะเบียนกี่คนและต้องใช้เงินงบประมาณเท่าไร” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรื่องแหล่งที่มาของเงิน 5 แสนล้านบาท ยังไม่ตัดแหล่งวงเงินจาก ธ.ก.ส. แหล่งเงินที่พิจารณาใหม่เป็นข้อเสนอ ที่จะให้คณะกรรมการชุดใหญ่ เชื่อว่า ยังเปิดลงทะเบียน และผู้มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาทก่อนสิ้นปีนี้
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่วันที่ 15 ก.ค. นี้ จะได้ข้อสรุปของโครงการแจกเงินดิจิทัล แหล่งที่มาของเงิน กำหนดการลงทะเบียนของประชาชน ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2567 มีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท นับตั้งแต่ 31 มี.ค. 67 และมีรายได้ไม่เกิน 8.4 แสนบาทต่อปี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้แถลงว่า แหล่งที่มาของเงินดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท จะมาจาก งบฯ ปี 67 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท ใช้เงิน ธกส.1.72 แสนล้านบาท และใช้เงินจากงบฯ ปี 68 จำนวน 1.52 แสนล้านบาท โดยล่าสุดมีการเปลี่ยนแหล่งมาของเงินอีกครั้ง เนื่องจากกังวลเรื่องการใช้เงินจาก ธ.ก.ส. จะผิดกฎหมาย