สอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง "ชนินทร์" ผู้ต้องหาโกงหุ้นสตาร์ค ปฏิเสธทุกข้อหา "ดีเอสไอ" คุมตัว ส่งฟ้องศาลพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) พร้อมแจ้ง 6 ข้อหา ด้านอัยการร่างคำฟ้องรอไว้แล้ว
จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ควบคุมตัว นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) จำเลยรายสำคัญในคดีฉ้อโกงประชาชนมูลค่านับหมื่นล้านบาท จากอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาสอบปากคำที่ดีเอสไอ นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.20 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจจาก ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เดินทางด้วยเครื่องบินกลับกรุงเทพมหานคร ก่อนนั่งรถยนต์มายังดีเอสไอ เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวน นายชนินทร์ ด้วยตัวเอง ก่อนออกเปิดเผยภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ว่า นายชนินทร์ ยังไม่ให้การแต่อย่างใด พร้อมทั้งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
อีกทั้งพนักงานสอบสวนลงความเห็นให้สั่งฟ้องต่ออัยการใน 6 คดีหรือ 6 ข้อกล่าวหาสำคัญดังนี้
1. ฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน
2. กระทำความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3. การปลอมแปลง บันทึกบัญชีเป็นเท็จ
4. ผู้บริหารปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาท ไม่ระมัดระวัง
5. กระทำการทุจริต
6. ฟอกเงิน
โดยทุกข้อกล่าวหารวมกันมีความผิดมากกว่า 100 กรรม รวมมูลค่าความเสียหาย 1.47 หมื่นล้านบาท มีผู้เสียหายรวมกว่า 4 พันราย ทั้งสถาบันการเงิน ผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ถือหุ้นกู้ อีกทั้งพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องต่ออัยการในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย. 2567) และคาดกระบวนการจะไปสู่การยื่นให้ศาลพิจารณาวันที่ 14 มกราคม 2568 โดยมีการรวมสำนวนคดีเดิมร่วมไว้ด้วย
ขณะเดียวกัน นายชนินทร์ อ้างว่า กำลังป่วยอยู่ด้วยโรคเกี่ยวกับช่องท้อง จึงต้องมีการเชิญทีมแพทย์มาตรวจร่างกายอย่างละเอียด ตามระเบียบ เพื่อทราบผลที่ชัดเจน ก่อนส่งต่อตัวผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการ
สำหรับการขยายผลเส้นทางการเงิน นั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ติดตามเส้นทางการเงินกลับมาได้ 3,000 ล้านบาท ดังนั้นน่าจะมีเงินส่วนอื่นๆ ที่เหลืออีก ซึ่งดีเอสไอ อัยการ และกระทรวงต่างประเทศ จะติดตามสอบสวนเงินที่เหลือต่อไป
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาการอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าพนักงานอยู่ระหว่างติดตามทรัพย์สินที่ผู้ต้องหา นำออกไปนอกประเทศ โดยการสอบสวนพบว่า ส่วนใหญ่เงินไปอยู่ที่คนรอบข้าง และเลขานุการส่วนตัว ไม่ได้อยู่ที่ นายชนินทร์ ส่วนการฟอกเงิน น่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือนนับจากนี้
นอกจากนี้ มีรายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งให้อัยการผู้รับผิดชอบสำนวน ได้เตรียมร่างคำฟ้องไว้แล้ว สามารถนำตัวผู้ต้องไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาได้ทันที เมื่อยื่นฟ้อง นายชนินทร์ แล้ว จึงไปขออนุญาตศาลอาญา รวมพิจารณาคดีเป็นคดีเดียวกันกับจำเลยอื่นๆ ที่ยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้
สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 11 คน ในจำนวนนี้ผู้ต้องหามี5 รายเป็นนิติบุคคล เป็นจำเลยต่อศาลอาญา หมายเลขดำ อ.90/2567 ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าของความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท และยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว
