ชาวบ้านย่านเกษตรนวมินทร์ แสดงพลัง  รวมตัวคัดค้านไม่เอาอุโมงค์ทางด่วนของ กทพ

ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผนการก่อสร้างอุโมงค์ของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ย่านเกษตรนวมินทร์ ออกมารวมตัวคัดค้านการก่อสร้างอุโมงค์ดังกล่าว หวั่นปัญหาเรื่องความปลอดภัยและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งปัญหาที่ใช้งบประมาณมากเกินไปเนื่องจากระยะเวลาการก่อสร้างที่ยาวนาน เสนอให้สร้างทางยกระดับ โดยใช้ตอม่อเดิมที่ปล่อยร้างมาใช้ให้เป็นประโยชน์

จากกรณี ที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ข้อสรุปในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือส่วนทดแทนตอน N1 (ช่วงทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ซึ่งทาง กทพ.ได้ข้อสรุปเบื้องต้นกำหนดไว้ 3 แนวทางเลือก โดยมี 5 ทางเลือกย่อย พบว่าแนวสายทางที่ 2.2 เป็นแนวสายทางที่เหมาะสมที่สุด โดยจะเป็นอุโมงค์ใต้ดินทั้งหมด มีจุดเริ่มต้นบริเวณทางพิเศษศรีรัชตัดกับถนนงามวงศ์วาน แนวสายทางจะไปตามแนวถนนงามวงศ์วานผ่านแยกพงษ์เพชร แยกบางเขน แยกเกษตร เข้าถนนประเสริฐมนูกิจจนเชื่อมต่อกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 และเชื่อมต่อ E-W Corridor โดยมีคะแนนรวม 82.5 คะแนน ค่าลงทุนเฉพาะอุโมงค์ส่วนทดแทนตอน N1 ประมาณ 36,000 ล้านบาท และตอน N2 อีก 16,960 ล้านบาท 

หนึ่งในผู้คัดค้านได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ด้วยระยะเวลาในการก่อสร้างที่ยาวนานถึง 5 ปี บนถนนที่มีความยาวเกือบ 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ถนนงามวงศ์วาน-แยกเสนานิคม – เกษตรนวมินทร์ ซึ่งเป็นถนนที่มีธุรกิจต่างๆ เปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลายธุรกิจจะต้องปิดกิจการไป รวมถึงคนทำงานในย่านนั้นจะต้องตกงาน ส่งผลให้ธุรกิจเสียหายอย่างมหาศาล  

ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านในหลายพื้นที่รวมตัวออกมาคัดค้านการก่อสร้างอุโมงค์ทางด่วนในครั้งนี้ มี 3 สาเหตุด้วยกันคือ 1.เรื่องการเวนคืนที่ดิน เนื่องจากการก่อสร้างที่มีระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านในบริเวณได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่อยู่อาศัย  2. งบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทางชาวบ้านได้ออกมาเสนอว่าให้ปรับเปลี่ยนโครงการเป็นการสร้างทางด่วนแบบลอยฟ้า เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการสร้างเสาตอม่อ และถูกทิ้งร้าง จึงอยากให้นำสิ่งที่มีอยู่มาสานต่อให้เกิดประโยชน์ และจะเป็นการลดข้อจำกัดเรื่องยานพาหนะในการใช้งาน 3. เรื่องความปลอดภัย ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นผลกระทบที่เห็นได้ชัด ทั้งเรื่องอุบัติเหตุที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ประชาชนในย่านนั้นต้องอยู่อย่างลำบาก ต้องทนมลภาวะที่เกิดขึ้น รวมถึงการสัญจรที่เดินทางลำบากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้