ป่าไม้กระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเข้ม “ป่าแก่” ใครบุกรุก จับหมด ไม่มีเว้น

ป่าไม้กระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเข้ม “ป่าแก่” ใครบุกรุก จับหมด ไม่มีเว้น
ป่าไม้กระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเข้ม “ป่าแก่” ใครบุกรุก จับหมด ไม่มีเว้น

นายวศิน สิริเกียรติกุล ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสมชาย นุขนานนท์เทพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กรมป่าไม้ ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบสภาพพื้นที่  ป่าแก่ในพื้นที่สงวนแห่งชาติ ป่าในช่องฝั่งตะวันตก ถนนสายสาม และป่าในท้องที่ ต.ทับปริก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่  พบว่า ป่าในช่องฝั่งตะวันตก เนื้อที่ทั้งสิ้น 18,812 ไร่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 8 (2499) ออกตามความในพรบ.คุ้มครองและป่าสงวน พ.ศ. 2481  เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2499 
ปัจจุบัน 2566 มีพื้นที่สภาพป่าคงเหลือเพียง 6,619-1-52 ไร่ 

อีกส่วนคือ ป่าในท้องที่ ต.ทับปริก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ เนื้อที่ทั้งสิ้น 10625 ไร่ ตามประกาศ กฎกระทรวง ฉบับที่ 41 (2504) ออกตามความใน พรบ.คุ้มครองและป่าสงวน พ.ศ. 2481  ปัจจุบัน 2566 มีพื้นที่สภาพป่าคงเหลือ 1,831-1-65 ไร่ (update กพ.2567)  

เนื่องจาก พื้นที่ ป่าแก่ 2 ข้างทาง ถนนสายสาม กระบี่ - อ่าวลึก มีพื้นที่ทอดยาว กว่า 2 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ป่าชุมชนบ้านในช่อง ตาม พรบ.ป่าชุมชน 2562 ซึ่งแยกออกมาจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่อง เนื้อที่ 132 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา  อีกส่วนคือ ป่าฝั่งตะวันตกเดิม เป็น พื้นที่ป่าถาวร ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ตั้งอยู่ตรงหน้าที่ทำการของ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 

สำหรับข้อกังวลที่มีพี่น้องประชาชนร้องเรียนให้ตรวจสอบพื้นที่ด้านหลังป่าแก่ ว่ามีการบุกรุกหรือไม่ นายวศิน กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจด้วยตนเองแล้วเมื่อเดือน มกราคม และวันนี้นำเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบด้วย โดยแยกพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1. หลังป่าสงวนแห่งชาติทับปริก ฝั่งตะวันออก - ถูกกันไว้เป็นพื้นที่ ตามโครงการปฎิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร  ส.ป.ก. ตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้น  ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า สภาพพื้นที่จริง บางจุดยังมีสภาพเป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์มาก 

ส่วนที่ 2. หลังป่าสงวนแห่งชาติ ในช่อง ฝั่งตะวันตก - กันพื้นที่ออกเพื่อทำโครงการ คทช. ตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้น (คสช.) จึงออกหนังสืออนุญาติให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ วันที่ 6 กรกฏาคม 2561 และ อนุมัติ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 เพื่อจัดสรรที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาลในขณะนั้น จำนวน 2,952 ไร่ 2 งาน จนถึงวันที่ 23 กันยายน 2591  

นายสมชาย เผย  ภารกิจการป้องกันปราบปรามผู้บุกรุกและลักลอบตัดไม้ มีสถิติการจับกุมคดี ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 พรบ.ป่าสงวน 2507  ไว้ให้ ย้อนหลัง 3 ปี (2563-2566) มีการบันทึกจับกุม ดังนี้ 

ปี 2563   จับกุม จำนวน 3 คดี 

- คดีอาญาที่ 340/2563 ยึดทรัพย์ที่ 224/2563 เกิดเหตุ 5 มีนาคม 2563 เหตุเกิดในพื้นที่ป่า ต.ทับปริก ต.เขาคราม เนื้อที่ 5-3-92 ไร่ 

- คดีอาญาที่ 459/2563 ยึดทรัพย์ที่ 459/2563 เกิดเหตุ 25 มีนาคม 2563 เหตุเกิดในพื้นที่ป่า ต.ทับปริก ต.เขาคราม เนื้อที่ 11-3-80 ไร่ 
  
- คดีอาญาที่ 656/2563 ยึดทรัพย์ 387/2563 เกิดเหตุ 8 กันยายน 2563 เหตุเกิดในพื้นที่ป่า ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่

ปี 2564  จับกุม 5 คดี 

- เนื้อที่ 1-1-68 ไร่ พื้นที่ป่าในช่อง ม.1 ตำบลไสไทย อ.เมืองกระบี่ ปจว.ข้อที่ 19 เวลา 18:54 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2564 

- เนื้อที่ 2-1-76 ไร่ พื้นที่ป่าในช่อง ม.1 ต.ไสไทย  ปจว. ข้อ 18 ลงวันที่ 9 มี.ค.2564 

- คดีอาญา 35/2564 ยึดทรัพย์ 246/2564 เนื้อที่ 3-2-52 ไร่ พื้นที่ป่าในช่อง ม.4 ต.เขาทอง  ปจว. ข้อ 12 เวลา 20:10 น. ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 

- แปลงที่ 1 เนื้อที่ 4-1-90 ไร่ 
  แปลงที่ 2 เนื้อที่ 7-1-47 ไร่ 

ในพื้นที่ป่าทับปริก และ ต.เขาคราม ม.2  ปจว.ข้อที่ 21 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 

-  เนื้อที่ 23-0-48 ไร่ พื้นที่ป่า ต.ทับปริก ต.เขาคราม ม.2 ต.ทับปริก ปจว.22 ลงวันที่ 20 ตค.2564 

ปี 2565  ไม่มีการจับกุม 

ปี2566  จับกุม 1 คดี 

-  คดีหมายเลขดำ อ990/2566 จับกุมไม้ตะเคียนทองสามพอน 12 แผ่น พื้นที่ป่าในช่อง บ้านหนองขอน ม.2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ปจว.ข้อที่ 4  เวลา 15:30 น. ลงวันที่ 18 ก.พ.2566 
.

ด้าน นายวศิน  กล่าวว่า หลังจากที่ตนลงพื้นที่ได้ฟังเสียงสะท้อนทาง เจ้าหน้าฝ่ายปฎิบัติงานว่า  มีข้อจำกัดในการดำเนินงานป้องกันปราบปรามอยู่พอสมควร ทั้งด้านจำนวนอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ด้านงบประมาณด้านป้องกันของกรมป่าไม้ที่มักจะโดนตัดทุกปี ในขณะพื้นที่ป่าไม้ ที่มีหน้าที่ต้องดูแลปกป้องดูแลในพื้นที่ 3 จังหวัด กระบี่ พังงา ภูเก็ต หลายล้านไร่ และยังเป็นที่ดินที่มีมูลค่าสูง ซึ่งงบประมาณกับกำลังพลไม่ได้สัดส่วน 

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่านาทีนี้ เราต้องหาแนวร่วมจากภาคประชาชนให้มาก เพราะจะสามารถช่วยตรวจตราสอดส่อง แจ้งเบาะแสเข้ามาได้ไม่มากก็น้อย เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ทำผิด บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตลอดจนการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้  

หลังจากนี้ทาง ผอ.ป่าไม้กระบี่ จะปรับแผนป้องกันปราบปรามเชิงรุกมากขึ้น ทั้งด้านการข่าวและเพิ่มการลาดตระเวนพื้น หากพบการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นใครจะจะบังคับใช้กฎหมายเต็มที่  

ทั้งนี้ขอถือโอกาสเชิญชวนพี่น้องประชาชาชนที่มีรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของบ้านเกิด มาช่วยกันเป็นอาสาสอดส่องดูแล แจ้งเบาะแสการกระทำผิดในพื้นที่ป่าไม้ ไปยัง Green Call สายด่วนกรมป่าไม้ 1310 กด 3 หรือ สำนักงานป่าไม้ 12 และหากท่านพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไปมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ หรือมีส่วนในการกระทำผิด ก็ขอให้แจ้งเบาะแสไปยัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ จ.กระบี่ หรือโทร สายด่วน ป.ป.ช.1205 

TAGS: #ป่าไม้ #กระบี่ #ป่าแก่