เบื้องหลังภาพแห่งมูลค่า: แผ่นเสียงแจ๊ส Blue Note กับชายที่ชื่อ Lee Morgan

เบื้องหลังภาพแห่งมูลค่า: แผ่นเสียงแจ๊ส Blue Note กับชายที่ชื่อ Lee Morgan
ภาพถ่ายของ Lee Morgan ที่อยู่ท่ามกลางกองแผ่นเสียง Blue Note ไม่ได้เพียงเก็บความทรงจำในยุคทองของดนตรีแจ๊สเอาไว้เท่านั้น แต่ยังบอกเล่าความหลงใหลในเสียงเพลงของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง

ความหลงใหลในเสียงเพลง เริ่มชัดขึ้นในต้นศตวรรษที่ 20 ช่วงที่ “แผ่นเสียง” เริ่มกลายเป็นที่สนใจของผู้คนหมู่มากที่ชื่นชอบการฟังเพลง และยังกลายมาเป็นอีกหนึ่งไอเทมวินเทจของนักฟังเพลงหรือนักสะสมที่มีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลาจนถึงปัจจุบัน 

เหมือนอย่างภาพถ่ายที่มี Lee Morgan สุดยอดนักดนตรีแจ๊สชาวอเมริกัน นั่งในท่าสบายๆ พร้อมกับหันมายิ้มให้กับกล้อง โดยมีฉากหลังเป็นกองแผ่นเสียง Blue Note แผ่นเสียงที่ผลิตโดย Blue Note Records ค่ายเพลงแจ๊สเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ถูกบรรจุไว้ในกล่องอย่างดี จนกลายเป็นภาพธรรมดา ที่ดูไม่ธรรมดาในเวลาต่อมา 

หากมองเจาะลึกไปในภาพถ่าย จะพบหมายเลขแคตตาล็อกที่ถูกระบุไว้ด้านข้างกล่องแผ่นเสียง ได้แก่ 1555, 1558, 1559 และ 1569 ซึ่งเป็นแผ่นเสียงที่เพิ่งพิมพ์เสร็จและถูกจัดส่งมาจาก Plastylite บริษัทผลิตแผ่นเสียง ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เป็นแผ่นเสียงทั้งหมดหรือเป็นเพียงบางส่วนของการพิมพ์ครั้งแรก ซึ่งที่ข้างกล่องยังดูเหมือนว่า มีการระบุจำนวนแผ่น LP (Long Play) ที่ใส่ในแต่ละกล่อง ประกอบด้วย จำนวน 215, 220 หรือ 225 แผ่น เป็นจำนวนของแผ่นเปล่าที่สามารถใส่ไปในกล่องได้ โดยยังไม่ใส่ปก เพราะหากดูจากขนาดกล่อง คาดว่ามีขนาดประมาณ 14x14x14 นิ้ว ซึ่งใส่แผ่นเสียงพร้อมปกได้เพียง 75 แผ่นเท่านั้น ดังนั้นคาดว่า การจับคู่แผ่นเสียงกับปกจึงไม่ได้ประกอบมาตั้งแต่บริษัทผลิตแผ่นเสียง แต่เพิ่งมาประกอบเข้ากันที่ออฟฟิศของ Blue Note

แผ่นเสียง Blue Note แบบเปล่า 1 แผ่นมีน้ำหนักประมาณ 180 กรัม หากในกล่องมีจำนวนอยู่ที่ 215–225 แผ่น กล่องจะหนักราว 40 กิโลกรัม และหากวางประมาณ 4 กล่องจะมีความสูงประมาณ 5 ฟุต 

จากภาพหากมองไปที่กองแผ่นเสียงหมายเลข 1569 ดูเหมือนจะถูกวางซ้อนกันไว้ 3 ชั้น หากกล่อง 1 กอง มีแผ่นเสียงประมาณ 800 แผ่น จะเท่ากับว่า 3 กอง มีแผ่นเสียงประมาณ 2,500 แผ่น ซึ่งการพิมพ์แผ่นเสียงสามารถผลิตได้ 1 แผ่นต่อนาที หรือประมาณ 500 แผ่นต่อวันตามชั่วโมงทำงานปกติ 

แต่ภาพถ่ายที่เห็นก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ล็อตของแผ่นเสียงนี้เป็นทั้งหมดหรือเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ถ้าหากเป็นทั้งหมดในการจัดส่งจากบริษัท Plastylite ก็ถือว่า สะท้อนความเป็นระเบียบในการจัดการกับล็อตแผ่นเสียงที่อยู่ในห้องเก็บสินค้าของ Blue Note ได้เป็นอย่างดี 

ข้อมูลจากแคตตาล็อก Schwann ยังพบว่า แผ่นเสียงทั้ง 4 หมายเลขถูกออกจำหน่ายในเดือนสิงหาคมและกันยายน ปี 1957 ดังนั้น ภาพถ่ายนี้น่าจะถ่ายในช่วงปลายฤดูร้อน ปี 1957 โดยช่างภาพที่ชื่อ Francis Wolff ซึ่งในช่วงนั้นออฟฟิศของ Blue Note ได้ตั้งอยู่ที่ 47 West 63rd Street ส่วนที่มีภาพของ Lee Morgan ปรากฎอยู่ด้วย เพราะในช่วงปี 1957 เขาเป็นศิลปินที่มีผลงานมากที่สุด โดยออกอัลบั้ม  Blue Note ทั้งหมด 5 ชุด และยังมีการคาดเดารอยยิ้มของเขาว่า อาจจะเจรจาขอขึ้นค่าตัวสำเร็จหรือเขาเพียงแค่รู้สึกดี เลยหันมายิ้มให้กล้องเพียงเท่านั้น  

แผ่นเสียงเหล่านั้นที่ปรากฏในภาพกลายเป็นแผ่นเสียงที่หายาก และเคยถูกประมูลด้วยราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหากทุกแผ่นยังอยู่ในสภาพดี และไม่เคยถูกนำมาใช้งาน ราคาตลาดรวมตอนนี้อาจมากกว่า 20 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ผ่านมาแต่ละแผ่นเคยถูกประมูลด้วยราคาสูงสุด ดังนี้ 

  • BN 1569 – Paul Chambers: $2,024 
  • BN 1559 – Johnny Griffin: $2,800
  • BN 1555 – Art Blakey: $686
  • BN 1558 – Sonny Rollins: $885

ภาพของ Lee Morgan ที่นั่งอยู่ท่ามกลางกองแผ่นเสียง Blue Note ไม่ได้เป็นเพียงภาพเบื้องหลังธรรมดาทั่วไป แต่ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวอันลึกซึ้งได้มากมายเกี่ยวกับแผ่นเสียงในยุคทองแห่งดนตรีแจ๊สที่กลายเป็นสัญลัษณ์ของศิลปะ และวัฒนธรรมที่เดินทางผ่านเวลาจนสามารถสร้างมูลค่าได้ถึงปัจจุบัน 
 

ภาพ : londonjazzcollector.wordpress.com

เรื่อง : Pornthida Jedeepram 

TAGS: #Music #BlueNote #Jazz #LeeMorgan