หากจะพูดถึงผู้ประกอบธุรกิจ E-book ในประเทศไทย เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB บริษัทในเครือ B2S ซึ่งจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันตลาด E-book เติบโตเป็นอย่างมาก เพราะในยุคที่อินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและคอยอำนวยความสะดวกให้เราในหลายๆเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของการหาความรู้ที่ทุกวันนี้แค่เปิดสมาร์ทโฟนก็สามารถหาคำตอบได้แล้ว และถึงแม้ขณะนี้ E-book จะไม่สามารถเข้ามาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ได้ 100% แต่ก็ยังถือว่าเป็นตลาดที่น่าจับตามอง

และหากจะพูดถึงผู้ประกอบธุรกิจ E-book ในประเทศไทย เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB   บริษัทในเครือ B2S ซึ่งจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

โดยการจองซื้อหุ้นไอพีโอของ MEB จำนวน 75,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น ในราคาหุ้นละ 28.50 บาท ระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ และวันที่ 6 - 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก ทั้งนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย เพราะมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของ MEB ที่มีความพิเศษเฉพาะตัวที่โดดเด่น มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องในอนาคตจากแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยมีลำดับการใช้งานอันดับต้นๆ ของโลก

สำหรับ วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ไปใช้ ดังนี้

1.เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) อาทิ การเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมประเภทนิยายและการซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมประเภทอื่นที่ไม่ใช่นิยาย

2.เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ อาทิ การสร้างแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในต่างประเทศ โดยใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ หรือการสร้างแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในภาษาอังกฤษ โดยเน้นรูปแบบที่บริษัท ซื้อลิขสิทธิ์ของวรรณกรรมภาษาไทยที่แต่งขึ้นโดยนักเขียนชาวไทยที่เป็นที่นิยมมาแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในภาษาอังกฤษ และในรูปแบบแพลตฟอร์มที่บริษัท จะให้นักเขียนอิสระสามารถจำหน่ายผลงานวรรณกรรมในภาษาอังกฤษเป็นตอนได้ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับแพลตฟอร์ม readAwrite

3.เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

ซึ่ง ก็บริษัทมีสัดส่วนหุ้นของ "ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร" ที่ไม่ติด silent period จำนวน 59,500,000 หุ้น คิดเป็น 19.83% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO ทางผู้มีส่วนร่วม ได้ตกลงที่จะจำกัดสิทธิของตนว่าจะไม่จำนำ จำนอง ก่อภาระติดพัน ขายหรือจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นของตนให้แก่บุคคลอื่นใดในช่วงระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่หุ้นของบริษัท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ