KUN ลุยเปิด 2 บิ๊กโปรเจค“คุณาลัย นาวาร่า -คุณาลัย เพอร์ร่า” มูลค่ากว่าหมื่นลบ.ประกาศทำนิวไฮต่อ ตั้งเป้ารายได้ปี 66 แตะ 1.3 พันลบ. – ยอดขาย 1.8 พันลบ.

ประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN”  เปิดเผยว่า  บริษัทฯตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ในปีนี้ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท ขณะที่รายได้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตแตะระดับ 1,300 ล้านบาท ซึ่งทุบสถิติสูงสุดใหม่  (นิวไฮ) ต่อเนื่องจากปี 2565 ที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 180 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 ทั้งหมด  

โดยบริษัทฯ วางกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี2566 “KUN” ได้ขับเคลื่อนธุรกิจผ่านการเปิดตัว โครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,600 ล้านบาท ได้แก่

1.โครงการคุณาลัย นาวาร่า พระราม

2.โครงการคุณาลัย นาวาร่า รังสิต-คลอง 2

3.โครงการ คุณาลัย เพอร์ร่า

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เชื่อว่าในปี 2566 บริษัทฯยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากดีมานด์ผู้ที่ต้องการ ที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังจากกำลังซื้อเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจภายหลังจากมีการเปิดประเทศ

และล่าสุดจากการที่รัฐบาลจีนได้มีการประกาศปลดล็อคเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ยิ่งส่งผลดีต่อการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจในไทย ทั้งการจ้างงานในภาคท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง จะหนุนให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลเชิงด้านบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน

ซึ่งมีแผนขยายตลาดไปในกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้นและจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมการมองหาที่อยู่อาศัยของลูกค้าต่างชาติเปลี่ยนไป มองประเทศไทยเป็นจุดหมายการใช้ชีวิต (Destination) จึงเป็นการมองหาบ้านแนวราบที่ให้ความสะดวกสบาย เพื่อการอยู่อาศัยที่เหมาะกับครอบครัว และสามารถอยู่ได้ในระยะเวลายาวขึ้น

บริษัทฯ เชื่อว่าหลังจากนี้ ตลาดบ้านจัดสรรจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นการเช่าอยู่มากขึ้น ดังนั้น“KUN”จึงมีการศึกษาเพื่อเตรียมแผนรับมือกับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป โดยอยู่ระหว่างการเตรียมแผน 5 ปี (ปี 2566-2570) ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายรายได้จะแตะระดับ 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 จากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

และในแผน 5 ปีจากนี้ “KUN”จะเติบโตไปในธุรกิจอื่น ๆทั้งในรูปแบบการร่วมทุน (JV) และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าว เป็นแผนซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น