SCB EIC ส่องอสังหาฯ ให้เช่าปี 69 ชี้ "Oversupply" ยังเป็นโจทย์หิน แนะเร่งปรับกลยุทธ์รับมือสงครามการค้า

SCB EIC ส่องอสังหาฯ ให้เช่าปี 69 ชี้
SCB EIC เตือนอสังหาฯ ให้เช่าปี 69 เจอศึกหนัก! รับแรงกดดัน "Oversupply" ล้นตลาดพ่วงเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมชี้ "ทางรอดเดียว" เร่งปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขันเดือด!

นายเชษฐวัฒก์ ทรงประเสริฐ นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) เปิดเผยว่า ธุรกิจพื้นที่สำนักงานให้เช่าและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าปี 2569 ยังฟื้นตัวได้จำกัดจากแรงกดดันของอุปสงค์ที่ฟื้นตัวช้า และอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) ที่ยังไม่คลี่คลาย

โดยตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่าในปี 2569 มีแนวโน้มทรงตัว จากความต้องการพื้นที่เช่าของบริษัทต่างชาติที่มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และสถานการณ์ Oversupply ที่ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ในระยะสั้น

อุปสงค์ ตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่าในปี 2569 มีแนวโน้มทรงตัว หรือขยายตัวเล็กน้อย ราว +0% ถึง +1%YOY ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า โดยความต้องการพื้นที่เช่าจากบริษัทต่างชาติมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง จากผลกระทบของสงครามการค้าจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้บริษัทที่ต้องการลงทุนในไทยส่วนหนึ่งอาจชะลอการลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจน แม้ตัวเลขการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 จะยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่เศรษฐกิจไทยในช่วง 2 ปีข้างหน้าที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่ำ และมีแผลเป็นทางเศรษฐกิจ ทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ยังคงกดดันความต้องการพื้นที่เช่าจากบริษัทในประเทศ

อุปทาน พื้นที่ให้เช่าใหม่ในปี 2569 ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเล็กน้อย ราว +0.5% ถึง+1.5%YOY หลังจากที่เพิ่มขึ้นราว +5%YOY ในปี 2568 โดยผู้ประกอบการบางส่วนยังชะลอหรือระงับแผนการเปิดโครงการใหม่ ขณะที่โครงการเปิดใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นโครงการขนาดใหญ่เกรด A และ A+ ทำเลใจกลางเมืองเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อุปทานใหม่ที่ยังเพิ่มขึ้นในระดับที่มากกว่าอุปสงค์อย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ Oversupply ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ในระยะสั้น โดยคาดว่าอัตราการปล่อยเช่าในปี 2569 โดยเฉลี่ยของตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่าจะอยู่ที่ราว 78% ใกล้เคียงกับปี 2568

ขณะที่ตลาดพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าในปี 2569 มีแนวโน้มขยายตัวเพียงเล็กน้อย โดยยังเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัว ขณะที่ Traffic นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน

อุปสงค์ ตลาดพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าในปี 2569 มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย ราว +1.5% ถึง +2.5%YOY ใกล้เคียงกับในปีก่อนหน้า โดยภาคครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่างยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย จากแรงกดดันของเศรษฐกิจในประเทศที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้าและขยายตัวต่ำ ขณะที่ Traffic นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อย ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงการระมัดระวังการใช้จ่ายท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากสงครามการค้า

อุปทาน พื้นที่ให้เช่าใหม่ปี 2569 ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ราว +3.5% ถึง +4.5%YOY หลังจากที่เพิ่มขึ้นราว +5%YOY ในปี 2568 โดยเป็นโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ Midtown และ Suburb เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อุปทานใหม่ที่ยังเพิ่มขึ้นในระดับที่มากกว่าอุปสงค์อย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ Oversupply ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ในระยะสั้น เช่นเดียวกับตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่า โดยคาดว่าอัตราการปล่อยเช่าในปี 2569 โดยเฉลี่ยของตลาดพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าจะอยู่ที่ราว 92% ใกล้เคียงกับปี 2568

อีกทั้งพื้นที่ใจกลางเมืองยังสามารถปรับอัตราค่าเช่าขึ้นได้ดีกว่ารอบนอก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่สามารถดึงดูดผู้เช่าใหม่ และ Traffic ได้ดี อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในกลุ่มรายใหญ่ด้วยกันก็ยังเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยอัตราค่าเช่าพื้นที่สำนักงานให้เช่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2569 มีแนวโน้มทรงตัว หรือขยายตัวเล็กน้อย ราว +0% ถึง +1%YOY จากการปรับขึ้นของกลุ่มเกรด A และ A+ เป็นหลัก ขณะที่อัตราค่าเช่าในกลุ่มเกรด B ยังมีแนวโน้มทรงตัว หรือหดตัวเล็กน้อยต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า เพื่อรักษาและดึงดูดความต้องการพื้นที่ให้เช่าที่มีจำกัด ในขณะที่อัตราค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2569 มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย ราว +0.5% ถึง +1.5%YOY จากการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าของโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ใจกลางเมือง และกรุงเทพฯ ชั้นกลางที่ Traffic ยังหนาแน่นเป็นหลัก โดยการแข่งขันที่ยังคงสูงทำให้การปรับขึ้นยังทำได้อย่างจำกัด ขณะที่อัตราค่าเช่าของโครงการในพื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ ยังมีแนวโน้มทรงตัว

ท่ามกลางปัจจัยกดดันและการแข่งขันที่ยังคงเข้มข้นในระยะต่อไป ผู้ประกอบการควรพิจารณาปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือ ดังนี้

ผู้ประกอบการรายใหญ่ 1) พัฒนาโครงการใหม่อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะในทำเลที่มีการแข่งขัน หรือสถานการณ์ Oversupply รุนแรง 2) สร้างความแตกต่างของพื้นที่หรือโครงการ โดยการเพิ่มความหลากหลายของประเภทผู้เช่า หรือรูปแบบของพื้นที่เช่าในโครงการ 3) ยกระดับคุณภาพของพื้นที่หรือโครงการ 4) บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ 5) ให้ความสำคัญกับเทรนด์ ESG โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการใหม่ให้ผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจเช่าพื้นที่ รวมถึงส่งผลต่อความสามารถในการปรับขึ้นของอัตราค่าเช่าตามมา

ผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก นอกจากการพัฒนาโครงการใหม่อย่างระมัดระวัง และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องสร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้างความแตกต่างของโครงการ เช่น มีรูปแบบการทำสัญญาเช่าพื้นที่ที่ยืดหยุ่น หรือเน้นเจาะกลุ่มผู้เช่าพื้นที่เฉพาะกลุ่ม เป็นต้น

TAGS: #SCBEIC #SCB #ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ #อสังหาฯให้เช่า #อสังหาริมทรัพย์