SET จ่อโรดโชว์ฮ่องกงสัปดาห์นี้ หวังดึงต่างชาติ เสริมเศรษฐกิจไทย พร้อมโชว์ SET เดือน ก.ย.ปิดบวก 3%

SET จ่อโรดโชว์ฮ่องกงสัปดาห์นี้ หวังดึงต่างชาติ เสริมเศรษฐกิจไทย พร้อมโชว์ SET เดือน ก.ย.ปิดบวก 3%
SET เผยภาวะตลาดเดือนกันยายน ดัชนีปิดที่ 1,274.17 จุด เพิ่มขึ้น 3% (QoQ) พร้อมเตรียมโรดโชว์ที่ประเทศฮ่องกงภายในสัปดาห์นี้ หวังดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จ่อโรดโชว์ที่ประเทศฮ่องกงภายในสัปดาห์นี้ (8-10 ต.ค.68) เพื่อโชว์ศักยภาพตลาดทุนไทยแก่นักลงทุน-สถาบันต่างชาติ โดยคาดหวังว่าจะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น พร้อมมองว่านโยบายดอกเบี้ยและนโยบายรัฐบาลใหม่ ”คนละครึ่งพลัส“ จะส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนและภาพรวมเศรษฐกิจไทย

ด้านนายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่าจะส่งผลต่อ SET Index ในวงจำกัด เนื่องจากผู้ลงทุนส่วนใหญ่ประเมินว่าเป็นเพียงปัจจัยภายนอกระยะสั้นที่อาจสร้างความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนชั่วคราวเท่านั้น โดยปัจจัยสำคัญที่ควรติดตามได้แก่ การดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่มุ่งเน้นหลักการ “กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว” ผ่านนโยบาย “Big Quick Win” รวมถึงความร่วมมือกันของหลายภาคส่วนในการปฏิรูปเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย 

นอกจากนี้ ยังเห็นโอกาสการฟื้นตัวต่อเนื่องของ SET Index ในช่วงที่เหลือของปี 2568 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากบริษัทจดทะเบียนที่กลับมาระดมทุนในตราสารหนี้และตราสารทุนเพิ่มขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ผลตอบแทนจากหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนใหม่ในวันแรกที่ค่อนข้างสูง แสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับแรงขายจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เริ่มชะลอตัวลงต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ดำเนินการโยกกองทุน LTF เป็นกองทุน Thai ESG ตามกำหนดเดิมจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2568 นั้น ปัจจุบันคาดมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 10%

โดยภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกันยายน 2568 SET Index ปิดที่ 1,274.17 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3% (QoQ) รวมถึงตั้งแต่ต้นปี SET Index ปรับลดลง 9% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 43,155 ล้านบาท ลดลง 31% (YoY) ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี อยู่ที่ 43,028 ล้านบาท

อีกทั้งในเดือนกันยายน มีนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 11,859 ล้านบาท หากนับตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนกันยายน 2568 มีนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 96,243 ล้านบาท โดยสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศยังคงมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 47.06% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ขณะที่ผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศมีสัดส่วนการซื้อขายที่ 37.63% ของมูลค่าการซื้อขายรวม เพิ่มขึ้น 33.98% (MoM)

ทั้งนี้ในเดือนกันยายน 2568 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET จำนวน 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เงินเทอร์โบ (TURBO)  และใน mai จำนวน 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.สกิน ลาบอราทอรี่ (SKIN) โดย Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ สิ้นกันยายน 2568 อยู่ที่ระดับ 13.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.1 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 14.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นกันยายน 2568 อยู่ที่ระดับ 3.86% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.02% 

อย่างไรก็ดีภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนกันยายน 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 457,290 สัญญา เพิ่มขึ้น 23.7% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures, SET50 Index Options, Gold Online Futures และ Currency Futures อย่างไรก็ดี ในปี 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 423,887 สัญญา ลดลง 12.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futuresและ Gold Online Futures 

TAGS: #SET #ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย #ภาวะตลาดหลักทรัพย์ #ตลาดทุนไทย #หุ้น #การลงทุน