SABUY มั่นใจผลงานไตรมาส2/66 ดีตามคาด พร้อมทุ่ม 5 พันล้านบาท ลงทุนเพิ่ม 2-3 ดีล

SABUY มั่นใจผลงานไตรมาส2/66 ดีตามคาด พร้อมทุ่ม 5 พันล้านบาท ลงทุนเพิ่ม 2-3 ดีล
ชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สบาย เทคโนโลยี หรือ SABUY เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฐานที่ต่ำ โดยไตรมาส 2/2565 บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 756 ล้านบาท โดยเป็นไปตามการขยายธุรกิจ

 

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจในปีนี้จะชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศหดตัวลง แต่บริษัทฯมีการกระจายรายได้ไปหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจตู้เติมเงิน ธุรกิจเกมส์ และธุรกิจpayment ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ยังคงเติบโตต่อได้อย่างเนื่อง ดังนั้นบริษัทฯจึงมั่นใจว่ารายได้ปี 2566 จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 20,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 5,300 ล้านบาท


โดยในปีนี้สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯจะมาจาก ธุรกิจ Machine/Kiosk จำนวน 2,900 ล้านบาท, ธุรกิจ Consumer Merchandising จำนวน 3,200 ล้านบาท, ธุรกิจ Drop-Off Shop & Service จำนวน 3,300 ล้านบาท, ธุรกิจ Solution & Platform จำนวน 3,500 ล้านบาท, ธุรกิจ Financial Service จำนวน 1,000 ล้านบาท และ ธุรกิจ Innotainment & Infrastructure จำนวน 6,000 ล้านบาท

ขณะที่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ เตรียมเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติให้ลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AS โดยการทำคำเสนอซื้อโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer) หุ้น AS จำนวนไม่เกิน 380,855,256 หุ้น ในราคาหุ้นละไม่เกิน 18.50 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 7,045,822,236 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิของ AS ครั้งที่ 2 (AS-W2) จำนวนไม่เกิน 4,961,539 หน่วย ในราคาหน่วยละไม่เกิน 15 บาท รวมคิดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 74,423,085 บาท จากปัจจุบันบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนราว 24% โดยหากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ลงทุนดังกล่าว คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต 

ในขณะที่ ปีนี้บริษัทฯวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยจะลงทุนใน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่ม Smart Solution (สมาร์ตโซลูชัน), กลุ่ม Payments (การชำระเงิน), กลุ่ม Touchpoints (จุดพบเจอกับผู้บริโภค), กลุ่ม Commerce (กลุ่มพาณิชย์) และกลุ่ม Financial Services (บริการทางการเงิน) 

อย่างไรก็ตามในปี 2566 คาดว่าจะเห็นการประกาศลงทุนเพิ่มอีก จำนวน  2-3 ดีล โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 5,000 ล้านบาท สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากการขายสินทรัพย์บางส่วนของ บริษัท สบาย สปีด จำกัด (SABUY SPEED) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SABUY ถือหุ้นในสัดส่วน 82% และขายที่ดินของ บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT (เดิมคือ บมจ.เธียรสุรัตน์ หรือ TSR) ซึ่งมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท 

นายชูเกียรติ กล่าวว่าเพิ่มถึงเรื่องการเข้าลงทุนใน บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER หลังจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติลดสัดส่วนการถือครองหุ้นดังกล่าว จึงมีการขายหุ้นออกไปบางส่วน จนปัจจุบันคงเหลือถือหุ้นน้อยกว่า 5 ล้านหุ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติกรณีของ Silicon Valley Bank (SVB) 

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงมีความสนใจในการเข้าลงทุนในหุ้น SINGER อยู่ ในรูปแบบการ Synergy แต่อย่างไรก็ตามขอรอดูงบการเงินของ SINGER ในไตรมาส 1/2566 และ ไตรมาส2/2566 ก่อน

 

 

TAGS: #SABUY #SINGER