วิทยาลัยสงฆ์ลำพูนแจง ไม่มีจีนเทาขอวีซ่านักศึกษาผ่านหลักสูตรสอนภาษาไทย ยันไม่มีเรียกรับหัวละ 10,000 บาท พร้อมจัดหารถตู้รับ-ส่ง ด้านตม.ลำพูนเผยตรวจเข้ม แจงเคยถอนวีซ่าแล้ว 28 ราย
พระเทพวัชรสารบัณฑิต (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ชี้แจงกรณีชาวจีนอ้างเป็นนิสิตวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน เข้าขอต่อวีซ่ากับตรวจคนเข้าเมืองลำพูน (ตม.) ทั้งที่ไม่ได้ศึกษาอยู่จริง โดยมีขบวนการเรียกรับเงินหัวละ 10,000 บาท พร้อมจัดรถรับส่ง ก่อนส่งกระจายแรงงานผิดกฎหมายไปทำงานตามไซต์งานต่างๆ ดังที่ได้มีข่าวปรากฎนั้น
วิทยาลัยสงฆ์ลำพูนได้ประสานหน่วยงานทางปกครองที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขอยืนยันว่าไม่มีนิสิตจีนที่ทำการหลอกลวง ไม่ได้เรียนจริง หรือไม่ได้เป็นนิสิตแต่อาศัยช่องทางนี้ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ในการจัดการศึกษาของวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแน่นอน
ด้านนายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยภายหลังสั่งการให้ พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผบก.ภ.จว.ลำพูน ติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนระยะสั้น เมื่อเดือน พ.ค.67 เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาไทยสำหรับคนต่างชาติ ซึ่ง ตม. มีมาตรการในการตรวจสอบติดตามตามกฏหมายต่อเนื่อง ตั้งแต่การขออนุญาต และหลังจากได้รับอนุญาต โดยประสานให้ มจร. รายงานการเข้าเรียนของนักศึกษาทุกสัปดาห์
โดยมีการเรียนการสอนทุกวันพุธ ทั้งรูปแบบ Onsite และ Online (ตม.เข้าตรวจสอบห้องเรียนในระบบ Zoom ทุกสัปดาห์) หากนักศึกษารายใดไม่เข้าเรียนตามที่หลักเกณฑ์กำหนด ก็จะถูกเพิกถอนวีซ่าดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่เปิดหลักสูตร ตม. ได้แจ้งเพิกถอนวีซ่าไปแล้ว 28 ราย