ไทยออยล์-แจงตลาดหลักทรัพย์-โครงการพลังงานสะอาดดำเนินการอย่างโปร่งใส

ไทยออยล์-แจงตลาดหลักทรัพย์-โครงการพลังงานสะอาดดำเนินการอย่างโปร่งใส
บริษัท ไทยออยล์ ทำหนังสือแจงตลาดหลักทรัพย์ ปมถูกผู้ถือหุ้นฟ้องดีเอสไอ และ ก.ล.ต. ยืนยันดำเนินการอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอน

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOP แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่มีข่าวว่านายชัชนัย ปานเพชร ผู้ถือหุ้นของ TOP ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท่าอาจมีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ หรือกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

1.โครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในด้านการกลั่นน้ำมันของบริษัท และสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งการลงทุนในโครงการนี้บริษัทได้นำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาและอนุมัติเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2561 ซึ่งในคราวนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนั้น บริษัทได้จัดให้มีความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ซึ่งได้ให้ความเห็นต่อผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลและประโยชน์ของโครงการ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น

โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติอนุมัติโครงการดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 99.91% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นของบริษัท ที่เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนน การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องทุกประการ และสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของผู้ถือหุ้นในกระบวนการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีผลสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจของบริษัท และการลงทุนในโครงการฯ เป็นมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทในปี 2561 โดยผ่านกระบวนการพิจารณา และได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น

2.ความล่าช้าของโครงการ เกิดจากปัจจัยภายนอก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โครงการเกิดความล่าช้า และต้องเจรจาแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมกับผู้รับเหมาหลัก กล่าวคือ The Consortium of PSS Netherlands B.V. (Offshore Contractor)  และ Unincorporated Joint Venture of Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. (เดิมชื่อ Samsung Engineering (Thailand) Co., Ltd.), Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. (Onshore Contractor) (เรียกรวมกันว่า “UJV –Samsung, Petrofac และ Saipem”) รวมถึงประเด็นที่ผู้รับเหมาช่วงบายรายได้ยุติการปฏิบัติงานเนื่องจาก UJ V -Samsung, Petrofac และ Saipem ไม่ชำระเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับเหมาช่วง 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความช่าช้าดังกล่าว บริษัทได้ดำเนินการบริหารจัดการโครงการอย่างดีที่สุด ทั้งในด้านการเจรจาสัญญา การควบคุมต้นทุนและการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการจากรายงานประจำปีและสารสนเทศของบริษัท ที่เผยแพร่ต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2567 

3.บริษัทขอให้ผู้ที่ได้รับข่าวสารใข้วิจารณญาณในการพิจารณาข่าวสารที่ได้รับ และหลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความเสียหายต่อบริษัท โดยบริษัทขอยืนยันในความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีบรรษัทภิบาล 

ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้น และสร้างความเชื่อมั่นในความถูกต้องและความเป็นธรรมของกระบวนการทางกฎหมาย 

TAGS: #บริษัท #ไทยออยล์